Filtrar por gênero
- 12 - ก้าวทันการค้าโลก EP.9 Platform Online ช่วยวิกฤต COVID-19
Platform Online ช่วยวิกฤต COVID-19 เมื่อวิกฤต COVID-19 ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไร แต่การทำธุรกิจเพื่อความอยู่รอดของทุกคนยังคงต้องดำเนินอยู่ วันนี้ทาง Admin อยากนำเสนอแนวทางที่ platform online ของ Alibaba ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Tmall และ Taobao นำมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้า Brand name หรือ สินค้าชุมชน เริ่มจากที่ Tmall ได้มีการจัด Livestreamed Online งาน Shanghai Fashion Week 2020 โดยมีมากกว่า 150 Brands ที่เข้าร่วมด้วย ผ่านประสบการณ์การนำเสนอสินค้าออนไลน์ ตาม Concept “See now, Buy now” ทำให้ผู้ที่ดู Shanghai Fashion Week สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีผ่านทางระบบ โดยงานเปิดตัวในวันแรกดึงดูดผู้ชมมากถึง 2.5 ล้านคน มีผู้รับชมรวม 11 ล้านวิวและช่วยสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท มาต่อกันด้วย Taobao ก็ได้มีการทำ Livestreamed ผ่าน Taobao Live ซึ่งเกษตรกรและชุมชน ได้ทำการ Live พร้อมขายสินค้า ในระบบ Taobao ซึ่งทาง Taobao เองคาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายถึง 75,000 ล้านบาท ════════════════ เราช่วยเรื่องนำเข้า ส่งออก ให้คุณ www.zupports.co ════════════════ หันกลับมามองที่ไทย จริง ๆ คนไทยได้ประยุกต์ใช้ Livestreamed มาใช้ในการขายของ น่าจะเป็นประเทศแรกของโลกก็ว่าได้ ซึ่งเรามักจะเห็นการ Live กันใน Facebook แต่ในปัจจุบันเราสามารถทำได้ผ่านในหลาย ๆ Platform รวมถึง Platform Marketplace อย่าง Shopee LAZADA ก็มีระบบการ live เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายเช่นกัน จริง ๆ ในช่วงวิกฤตแบบนี้ การค้าขายในออนไลน์ อาจจะช่วยให้เราเพิ่มยอดขายได้มากกว่าขายออฟไลน์ที่ผ่านมาก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถสร้าง Content ที่ดึงดูดผู้บริโภคได้ขนาดไหน ════════════════ เราช่วยหาโอกาส ทางการค้าระหว่างประเทศ www.zupports.co ════════════════ ที่มา https://www.alizila.com/what-shanghais-first-digital-fashion-week-meant-for-brands-and-designers/ https://www.alizila.com/taobao-live-rethinks-the-future-of-stores/ https://www.youtube.com/watch?v=5s-KKeveaPQ ----------------------------------------------------------- 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม See first ⭐️ "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก www.zupports.co 👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก https://m.facebook.com/groups/845457579217628/?ref=pages_profile_groups_tab #นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้าส่งออก #นำเข้า #ส่งออก #ZUPPORTS #สนับสนุนSMEsไทยก้าวไกลไปทั่วโลก #Covid19 #Crisis #Delivery #วิกฤต #ไทย #Online #Taobao #Tmall #การค้าโลก
Sun, 12 Apr 2020 - 02min - 11 - ฟัง Rap กิจกรรมช่วง COVID แบบเบา ๆ คลายเครียดกันครับ
สามารถดูคลิปได้ที่ https://youtu.be/61dowqy10BE กิจกรรมที่ห้ามหยุด แม้เราจะต้องหยุด (ออกจากบ้าน) เพื่อหยุด โควิด (หากถูกใจ ช่วยไลค์ & แชร์ให้เพื่อน เป็นกำลังใจให้แอดมิน ทำภาคต่อ) ขอบคุณภาพข่าวและข้อมูล จาก Reuters, Sanook, Spring News, Onlinestation, ChiangmaiNews, Khaosod, Facebook, Matichon, HWR, HG Robotics ════════════════ หา ขนส่ง ที่ดีที่สุด สำหรับ ธุรกิจ นำเข้า ส่งออก www.zupports.co ════════════════ ลงทะเบียนวันนี้รับข้อเสนอพิเศษ https://www.zupports.co/register/?utm_source=web&utm_medium=home_banner&utm_campaign=register
Wed, 08 Apr 2020 - 03min - 10 - EP8 ก้าวทันการค้าโลก 5 แนวปฏิบัติของธุรกิจช่วงวิกฤต COVID-19
5 แนวปฏิบัติของธุรกิจช่วงวิกฤต COVID-19 วันศุกร์ที่ 3 เมษายน ทางองค์การอนามัยโลกจัดแถลงข่าวสั้น ๆ เพื่ออัพเดทข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการระบาดของ COVID-19 โดยกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID-19 นั้น "แย่กว่าวิกฤติเศรษฐกิจโลก" ครั้งใด ๆ ที่ผ่านมา การ Lockdowns ทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจของโลกอยู่ในภาวะหยุดนิ่งและชะลอการแพร่กระจายของไวรัส โดยการหารือได้มีการเรียกร้องให้ทุกประเทศเสริมสร้างระบบสุขภาพโดยการจัดทำ 1. เงินทุนสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุขที่สำคัญ เช่น การค้นหารายกรณี การทดสอบ การติดตามผู้ติดต่อ การรวบรวมข้อมูล การสื่อสารและแคมเปญข้อมูล 2. การสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง สำหรับระบบสุขภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพได้รับเงินเดือนและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม มีเงินทุนที่ใช้ในการซื้อเวชภัณฑ์ที่จำเป็น 3. การกำจัดอุปสรรคทางการเงินในการดูแล โดยหลายประเทศไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าทำการทดสอบและดูแลผู้ติดเชื้อ coronavirus โดยไม่คำนึงถึงสถานะการเป็นพลเมืองหรือการพำนัก และแนวทางในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของโลก ประกอบไปด้วย 1. ความช่วยเหลือที่มีความสำคัญสำหรับตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูญเสียไป 2. การจัดหาเงินทุนฉุกเฉิน ซึ่ง IMF กำลังระดมทุนฉุกเฉินและเพิ่มความพร้อมสองเท่าจาก 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 3. ปลดภาระหนี้สำหรับสมาชิกที่ยากจนที่สุดของ IMF ได้เรียกร้องให้มีการหยุดการชำระหนี้จากประเทศที่ยากจนที่สุดไปสู่เจ้าหนี้ระดับทวิภาคี ════════════════ เราช่วยเรื่องนำเข้า ส่งออก ให้คุณ www.zupports.co ════════════════ หลังจากพูดถึงภาพรวมของโลกแล้ว หากเราหันมามองที่ภาพรวมของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย จากภาพรวม GDP ปี 2020 ที่คาดการณ์ก่อนวิกฤต COVID-19 ว่าเราจะโตขึ้นเล็กน้อยที่ 1.8% พอเกิดวิกฤต การเติบโตของประเทศไทย ลงไปติบลบที่ -0.3% หลายธุรกิจอาจจะปิดตัวไปในช่วงนี้ก็เป็นไปได้ แล้วเราจะมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไร ทาง Admin จึงขอนำเสนอ 5 แนวปฏิบัติของธุรกิจในช่วงภาวะผันผวน (ข้อมูลจาก Deloitte) 1. คิดถึงภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลาย ๆ มุมมอง และทำความเข้าใจกับมัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือ 2. มีความเด็ดขาดและชัดเจน ในการปรับแผนงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ การปรับแผนด้านภาษี 3. กำหนดวิธีการทำงานและเป้าหมายสุดท้ายให้ชัดเจน เช่น แนวทางในการลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งผ่านบริการ Share Service การพิจารณาสัญญาและคู่ร่วมธุรกิจใหม่ 4. ทำให้มันเกิดขึ้นโดยเร็ว การทำอย่างรวดเร็ว จะดีกว่าการทำถูกต้องแต่ไม่ทันการณ์ ในสถานการณ์เช่นนี้ 5. มีความกระตือรือร้น ในการหาข้อมูล และพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความเป็นจริงเรามักจะพบว่าทุก ๆ วิกฤต มักจะสร้างโอกาสและการเรียนรู้ ซึ่งวิกฤตในครั้งนี้อาจจะทำให้บริษัท ต่างๆ ต้องการลดต้นทุน ปรับปรุงความคล่องตัวขององค์กร รักษาและค้นหาฐานลูกค้า ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นไม่ใช่เพียงแต่องค์กรที่จะต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการอยู่รอด แต่พนักงานในองค์กรอาจจำเป็นที่ต้องพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี เพื่อการอยู่รอดของตนเองต่อไปในอนาคต ════════════════ เราช่วยหาโอกาส ทางการค้าระหว่างประเทศ www.zupports.co ════════════════ ที่มา https://www.weforum.org/agenda/2020/04/who-briefing-0403-economic-response-vulnerable/ https://www2.deloitte.com/content/dam/Deloitte/th/Documents/about-deloitte/th-about-economic-outlook-2020-covid-19-impact.pdf https://www.theguardian.com/global-development/2020/apr/01/extreme-coronavirus-lockdown-controls-raise-fears-for-worlds-poorest ----------------------------------------------------------- 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม See first ⭐️ "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก www.zupports.co 👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก https://m.facebook.com/groups/845457579217628/?ref=pages_profile_groups_tab #นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้าส่งออก #นำเข้า #ส่งออก #ZUPPORTS #สนับสนุนSMEsไทยก้าวไกลไปทั่วโลก #Covid19 #Crisis #Delivery #วิกฤต #ไทย #GDP #WHO #IMF #การค้าโลก
Sun, 05 Apr 2020 - 04min - 9 - EP.7ก้าวทันการค้าโลก ไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า 5 ไอเดีย ในการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดในยุค COVID-19
สถานการณ์ COVID-19 ในขณะนี้ ข้อมูลเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 7.07 น. ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกสูงถึง 721,412 ราย เสียชีวตแล้ว 33,956 ราย คิดเป็นอัตราผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 4.7% โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันเพิ่มขึ้นที่ 58,285 ราย หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 8.8% ต่อวัน ในขณะที่ประเทศไทยปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อ 1,388 ราย เสียชีวต 7 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันเพิ่มขึ้นที่ 143 ราย หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 11.5% ต่อวัน สิ่งสำคัญในตอนนี้ คือ ทุกคนต้องช่วยกัน ลดการพบปะกัน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ตามสโลแกนที่ว่า “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ” ════════════════ เราช่วยเรื่องนำเข้า ส่งออก ให้คุณ www.zupports.co ════════════════ จากสถานการณ์ตอนนี้ส่งผลกระทบให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องทำการปรับตัว เพื่อความอยู่รอด ในยุคที่ทุกคนต้องอยู่ภายในบ้าน ลดการทานอาหารนอกบ้าน ลดการขับขี่รถยนต์ ลดการใช้สถานที่สาธารณะ และเตรียมความพร้อมที่จะเป็นผู้นำธุรกิจหลังวิกฤต COVID-19 วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 5 ไอเดียเด็ดๆ ในการปรับตัวของธุรกิจเพื่อการอยู่รอดในยุค COVID-19 1. ปรับ LOGO รับ COVID ตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร McDonald’s ปรับโลโก้แสดงให้เห็นถึง Social Distancing 2. Delivery สู้ COVID 19 ตัวอย่างเช่น ร้านชาบูหลาย ๆ ร้าน ที่ปกติต้องไปทานที่ร้านเท่านั้น ตอนนี้ก็มีบริการ Delivery ให้ถึงบ้าน ไม่ว่าจะเป็น Penguin Eat Shabu หรือ You&I Premium Suki Buffet 3. บริการฟรี เพื่อช่วย ให้อยู่บ้านทำงาน ตัวอย่างเช่น Microsoft เปิดให้บริการ Office 365 E1 ฟรี นาน 6 เดือน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานไลเซ่นส์ชุดผลิตภัณฑ์ Office 365 E1 ฟรี 6 เดือน สามารถติดต่อ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทาง เบอร์โทร 02-012-2222 หรือที่อีเมล์ TH-MSCSP@ingrammicro.com 4. ช่องทาง Online ปลอดภัยจาก COVID ตัวอย่างเช่น ร้านค้าหลายร้านที่ปิดจำหน่ายหน้าร้านไป ก็มีการเปิดเวปไซต์ของตัวเอง หรือมีการใช้ Platform Marketplace อาทิเช่น SHOPEE LAZADA ช่วยในการจำหน่ายสินค้า 5. สร้างสรรค์อุปกรณ์ ลดการสัมผัส ตรวจสอบความเสี่ยง ปกป้องละอองน้ำลาย ตัวอย่างเช่น บริษัท Xiaomi ก็กำลังพัฒนาหน้ากากกันฝุ่นที่สามารถบันทึกข้อมูลคุณภาพอากาศด้วยเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งผู้สวมใส่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความจุปอดได้ด้วย หากเพื่อน ๆ มีไอเดีย ดี ๆ เพิ่มเติมสามารถที่จะ comment และ Share กันมาใต้โพสนี้ได้เลยนะครับ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของเราอยู่รอดในช่วงวิกฤตและพร้อมเติบโตต่อไปหลังวิกฤตในครั้งนี้ครับ ════════════════ เราช่วยหาโอกาส ทางการค้าระหว่างประเทศ www.zupports.co ════════════════ ที่มา https://ddcportal.ddc.moph.go.th/portal/apps/opsdashboard/index.html#/20f3466e075e45e5946aa87c96e8ad65 https://travel.trueid.net/detail/9aVBAy85eoWa https://techsauce.co/pr-news/microsoft-ingram-micro-covid19 https://business.ais.co.th/teamsforthailand/ ----------------------------------------------------------- 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม See first ⭐️ "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก www.zupports.co 👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก https://m.facebook.com/groups/845457579217628/?ref=pages_profile_groups_tab #นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้าส่งออก #นำเข้า #ส่งออก #ZUPPORTS #สนับสนุนSMEsไทยก้าวไกลไปทั่วโลก #Covid19 #Crisis #Delivery #วิกฤต #ไทย #Online #Marketplace #IOT #การค้าโลก
Mon, 30 Mar 2020 - 04min - 8 - ก้าวทันการค้าโลก EP.6 เมื่อหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาท ในสถานการณ์ COVID-19
เมื่อหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาท ในสถานการณ์ COVID-19 ข่าวเด่นที่สุดของสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย ซึ่งในข้อมูลเช้าวันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 12.27 น. พบผู้ติดเชื้อสะสม 599 ราย รักษาหาย 45 ราย เสียชีวต 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 553 ราย ซึ่งทางรัฐบาลได้ออกมาตรการและขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชน 1. มาตรการ social distancing ซึ่งมีความจำเป็นมากเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ 2. สั่งปิดห้างสรรพสินค้า ตลาด ทั่ว กทม. 22 วัน ให้ขายได้เฉพาะโซนอาหารที่ต้องซื้อกลับ บ้าน และยาเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 12 เมษายน 2563 3. ขอความร่วมมือ หน่วยงานเอกชนให้อนุญาตพนักงานทำงานที่บ้าน 4. หน่วยงานของรัฐให้ใช้วิธีเหลื่อมเวลาหรือสลับวัน การทำงาน ตามความเหมาะสม ════════════════ เราช่วยเรื่องนำเข้า ส่งออก ให้คุณ www.zupports.co ════════════════ จากมาตรการต่าง ๆ ข้างต้นนี้เอง เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องสัมผัสกัน และแพร่เชื้อสู่กัน หุ่นยนต์จึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในสถานการณ์แบบนี้ เริ่มจาก 1. หุ่นยนต์ชื่อ Ninja ซึ่งเป็นผลงานของพัฒนาของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่วัดไข้และช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาเฝ้าติดตามผู้ป่วยโรคโควิด- 19 โดยหน้าที่หลักๆ จะเป็นการเฝ้าจับตาการฟื้นตัวของผู้ป่วยซึ่งมีอาการหนัก ผ่านทางการพูดคุยผ่าน Video Link ในตัวหุ่นยนต์ โดยตอนนี้มีการใช้งานหุ่นยนต์ในพื้นที่โรงพยาบาล 4 แห่งทั่วกรุงเทพ โดยขยายไปยังโรงพยาบาลอีก 10 แห่งเพื่อที่จะลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ 2. ซึ่งปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นต่อไป ให้สามารถนำอาหารและยาเข้าไปให้ผู้ป่วย และสามารถที่จะนำหุ่นยนต์เหล่านี้เข้าไปทำหน้าที่ยังพื้นที่ปลอดเชื้อโรคของโรงพยาบาลได้ 3. นอกจากเรื่องหุ่นยนต์ที่จะช่วยในทางการแพทย์แล้ว บริษัทเอกชน หลาย ๆ บริษัท ก็กำลังปรับตัว โดยการนำหุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติ มาประยุกต์ใช้แทนแรงงานคน ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อาจจะเป็นปัจจัยที่เร่งการนำหุ่นยนต์และเทคโนโลยีมาใช้งานเพิ่มขึ้น 4. หากมองในสถาณการณ์ปัจจุบันและในอนาคต ที่ต้นทุนด้านพลังงานเริ่มที่จะถูกลง ค่าแรงงานที่สูงขึ้น การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ประกอบกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นเฉพาะกับมนุษย์ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหุ่นยนต์ อาจจะทำให้ยุคของหุ่นยนต์น่าจะมาเร็วกว่าที่เราคิด เราต้องมาค่อยดูกันแล้วว่า หลังวิกฤต COVID-19 สถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร วิถีชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คนจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน อุตสาหกรรมจะปรับตัวกันอย่างไรเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ต่อไปในอนาคต เป็นเรื่องที่น่าคิด ใครมองเห็นโอกาสในวิกฤต และลงมือทำได้เร็วกว่า อาจเป็นผู้เปลี่ยนโลกที่วุ่นวายในตอนนี้ก็เป็นไปได้ ════════════════ เราช่วยหาโอกาส ทางการค้าระหว่างประเทศ www.zupports.co ════════════════ ที่มา https://www.ibtimes.sg/ninja-robots-help-fight-coronavirus-infections-thailands-hospitals-41351 https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17 https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/situation/situation-no78-210363.pdf https://watch.thewest.com.au/show/227925 ----------------------------------------------------------- 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม See first ⭐️ "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก www.zupports.co 👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก https://m.facebook.com/groups/845457579217628/?ref=pages_profile_groups_tab #นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้าส่งออก #นำเข้า #ส่งออก #ZUPPORTS #สนับสนุนSMEsไทยก้าวไกลไปทั่วโลก #Covid19 #Crisis #หุ่นยนต์ #วิกฤต #ไทย #กทม #Robot #การค้าโลก
Sun, 22 Mar 2020 - 03min - 7 - การทันการค้าโลก EP.5 จะทำงานกันอย่างไร? เมื่อวิกฤต COVID-19 ใกล้เข้ามา
จะทำงานกันอย่างไร? เมื่อวิกฤต COVID-19 ใกล้เข้ามา จากสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ในประเทศไทยตอนนี้ ดูเหมือนหลายๆบริษัท กำลังเตรียมความพร้อม ในการย้ายการทำงานจากออฟฟิศมาสู่การทำงานจากที่บ้าน หรือที่เราเรียกกันว่า Work From Home ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ที่มา: https://hbr.org/video/6140518023001/how-to-actually-workwhen-youre-working-from-home https://hbr.org/video/4716647008001/working-well-with-your-boss-when-you-work-remotely https://www.brandbuffet.in.th/2020/03/8-ways-to-work-from-home/ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ วันนี้เรามาจะมาเล่าแนวทางในการเตรียมความพร้อมของบริษัทและพนักงานกัน บริษัท 1. ดึงงานขึ้นระบบออนไลน์ และให้พนักงานใช้ notebook แทนเครื่อง PC เพราะถ้างานเป็น offline เราคงจะต้องกลับเอาข้อมูลเข้าบริษัท Save ไป Save มา จนปวดหัวเป็นแน่ 2. วางแผนการติดต่อสื่อสาร อาจลองใช้โปรแกรมแชทที่มีในโทรศัพท์มือถือ หรือ ในคอมมาช่วยในการคุยงานแทนกันไปก่อนได้ เช่น LINE, Facebook Messenger, Hangouts (อยู่ใน G suite), Skype, Microsoft Teams, Zoom ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้นอกจากจะโทรคุยแบบ 1 ต่อ 1 แล้ว ยังสามารถประชุมแบบกลุ่มได้ด้วย 3. จัดพื้นที่พิเศษ บริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถนำทุกงานขึ้นไปอยู่บนระบบออนไลน์ได้จริง ๆ สิ่งที่ต้องทำในกรณีที่เกิดวิกฤติก็คือการจัดเตรียมพื้นที่ให้พนักงานมานั่งทำงานรวมกัน แต่ไม่อยู่ใกล้กันนะครับ (เสี่ยงการติดเชื้อได้) เพื่อให้ธุรกิจยังเดินต่อไปได้ และจัดเตรียมทรัพยากรที่จำเป็นให้พนักงานได้ใช้งาน หรือต้องเปิดระบบ-ฐานข้อมูลใดบ้างให้พนักงานสามารถเข้าถึงได้ 4. เฝ้าระวังทรัพย์สินของบริษัท ควรมีทีมพิเศษที่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ราชการในพื้นที่ได้ด้วย เพื่อให้สามารถรับทราบข่าวสารและนำไปสู่การตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที สำหรับพนักงาน จำเป็นต้องเตรียมตัวดังนี้ 1. สร้างพื้นที่สำหรับการทำงาน สำหรับคนที่ไม่เคยทำงานที่บ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาพื้นที่ที่เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างมีสมาธิ ไม่ควรมีสิ่งของที่เย้ายวนใจ เช่น ทีวี หรือเครื่องเล่นเกม เป็นต้น 2. จัดระเบียบรูปแบบการสื่อสารให้ได้ ควรกำหนดรูปแบบการสื่อสารที่ชัดเจนกับหัวหน้า อาทิเช่น LINE หรือ E-mail เพื่อให้การส่งต่องานหรือการประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ (สำคัญที่บ้านต้องมี Internet นะครับ) 3. กำหนดเวลาการทำงาน เราควรมีการกำหนดเวลาการทำงานและเวลาที่ควรพักให้ชัดเจน และรักษาระเบียบวินัยในการปฏิบัติ ไม่งั้นการทำงานจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง 4. สร้างขอบเขตของการทำงานและการพักผ่อน เราอาจจะต้องคิดว่าเวลานี้ คือเวลางาน ถึงแม้เราจะอยู่ที่บ้านก็ตาม กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว เราอาจจะต้องแบ่งให้ชัดเจน ไม่งั้นเราจะเอาเวลางานไปปนกับเวลาการพักผ่อน 5. ให้รางวัลกับความสำเร็จ ของงานบ้าง เราควรกำหนดเป้าหมายของงาน และเมื่อทำมันสำเร็จก็ควรฉลองเล็กๆ กับมันบ้าง อาทิเช่น การพักสายตา 15 นาที หรือการพักดื่มกาแฟ เป็นต้น สถานการณ์ COVID-19 อาจจะเป็นจุดเริ่มในการเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของคนไทย และอาจสร้างโอกาสทางธุรกิจทางด้านออนไลน์และออฟไลน์ที่เกี่ยวข้องขึ้นในอนาคต พวกเราพร้อมที่จะมุ่งเข้าไปไขว่ขว้าโอกาสนั้นแล้วหรือยัง แอดมินเชื่อว่าวิกฤต COVID-19 ไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเฉพาะเมืองไทย แต่มันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลก โอกาสการค้าของเรามาถึงแล้ว ใครเห็นก่อน ลงมือก่อน ก็น่าจะเป็นผู้นำในตลาดได้ไม่ยาก ════════════════ หาราคาขนส่งต่างประเทศ ที่ดีที่สุด www.zupports.co เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าของคุณ ════════════════ 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก ZUPPORTS.co 👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก http://bit.ly/35Rh2ql
Sun, 15 Mar 2020 - 04min - 6 - การทันการค้าโลก EP.4 ซาอุฯ ประกาศ ทำสงครามราคาน้ำมัน กระทบใครบ้าง?
ข่าวเด่นที่สุดของสัปดาห์นี้สดๆ ร้อนๆ เลย ก็คือ การที่ซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดราคาพรีเมี่ยมน้ำมันดิบลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ เราอาจได้เห็นราคาน้ำมันที่ 20-30 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปีกันเลยทีเดียว การตัดสินใจของซาอุฯ ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจากับรัสเซีย เพื่อให้มาร่วมลดกำลังการผลิตลง ก็ต้องดูว่าทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียจะพูดว่าอย่างไรกันบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นข่าวดีสำหรับประเทศผู้บริโภคน้ำมันอย่างประเทศไทยของเรา ต้นทุนที่ลดต่ำลง แต่เราลองไปลองคิดตามกันดูดีกว่า ว่าน้ำมันที่ถูกลง มันมีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง เริ่มกันที่ผลดีก่อน 1. ต้นทุนการผลิตและการขนส่งลดลง โดยไทยน่าจะยิ้มได้ เนื่องจากเรามีการนำเข้าน้ำมันสุทธิประมาณ 8% ของ GDP 2. อุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบในการผลิต ก็จะได้ประโยชน์ เช่น อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก (หากราคาสินค้าไม่ลดลงตามไปด้วย ซึ่งปกติจะใช้เวลากว่าราคาจะลงตาม) 3. ผู้ผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน น่าจะฉลอง โดยตอนนี้โดนรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง EV ตีตลาดมารุนแรงมากช่วงหลังๆ ถึงคิวเอาคืน 4. การท่องเที่ยว การบิน น่าจะกลับมาได้ โดยเฉพาะหาก COVID-19 จบ 5. กลุ่มค้าปลีกน้ำมัน พวกปั๊มน้ำมัน น่าจะคึกคักมากขึ้น 6. การนำเข้าสินค้ากลุ่มอื่นๆ ก็น่าจะเพิ่มมากขึ้น จากต้นทุนการผลิตโดยรวมที่ลดลง แต่ผู้บริโภค อาจไม่ได้รู้สึกว่าราคาน้ำมันถูกลงมากนัก เพราะอย่าลืมว่าบ้านเรามีการเก็บภาษีน้ำมันด้วย มีผู้ได้ผลประโยชน์ก็ย่อมมีผู้ที่เสียประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ดำดิ่งแบบนี้ เช่นกัน ได้แก่ 1. ผู้ส่งออกที่มีลูกค้าในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์ เนื่องจากการที่ ซาอุฯ ต้องทำสงครามราคา แสดงถึงความสิ้นหวังระดับหนึ่ง กำลังซื้อกลุ่มประเทศนี้อาจลดลง 2. ปตท.สผ. ผู้ผลิตน้ำมัน อันนี้กระทบโดยตรง 3. พลังงานทางเลือก อาจยังพอไปไหว เพราะรัฐสนับสนุน แต่ที่แย่คงเป็นพวกถ่านหิน 4. สินค้าเกษตร ที่อิงกับราคาน้ำมัน จะแย่มาก เช่น ยางพารา ซึ่งตอนนี้ราคาก็แย่อยู่แล้ว, หรือจะเป็น อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม ก็มีโอกาสแย่ลงกว่านี้ 5. โรงกลั่นอาจเจอ Stock Loss ไตรมาสนี้ ส่วนระยะยาว ต้องดูค่าการกลั่น ปีนี้ก็ถือเป็นปีแห่งความท้าทายอย่างแท้จริง โลกปั่นป่วนมากๆ ════════════════ หาราคาขนส่งต่างประเทศ ที่ดีที่สุด www.zupports.co ════════════════ ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-07/saudi-aramco-slashes-crude-prices-kicking-off-price-war https://www.scbeic.com/th/detail/product/1142
Sun, 08 Mar 2020 - 02min - 5 - 23 ก.พ. - 1 มี.ค. 63 ก้าวทันการค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ตอนที่ 3
#ก้าวทันการค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ประจำสัปดาห์ที่ 23 ก.พ. – 1 มี.ค. 2563 โดยสัปดาห์นี้เราเริ่มด้วยสถานการณ์และแนวทางดำเนินการของแต่ละประเทศที่มีต่อ COVID-19 และปิดท้ายด้วยแนวโน้มตลาดในช่วงวิกฤต COVID-19 กันครับ 1. สถานการณ์ COVID-19 รอบโลก เริ่มต้นที่จีน จำนวนผู้ติดเชื้อคงเหลือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 1) ประเทศที่เป็นต้นตอและมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก กลับมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นมาก 2) มีการใช้เทคโนโลยีช่วยคัดกรองผู้ป่วย ผู้สุ่มเสี่ยง ผ่าน Application Alipay 3) ช่วงวิกฤตแบบนี้ก็ทำให้คนจีนชีวิตมีระเบียบมากขึ้น อิหร่าน BBC รายงาน คนเสียชีวิตจริงอาจถึง 210 คนแล้ว 1) BBC รายงานข่าวว่าได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 210 คน ทั้งนี้โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านก็ออกมาชี้แจ้งว่าข่าวของ BBC นั้นเป็นข่าวเท็จ 2) คาดการณ์ว่าผู้ติดเชื้อในอีกไม่กี่สัปดาห์จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000-15,000 คน เกาหลีใต้ อัตราผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 และมีเคสผู้ที่ติดเชื้อซ้ำ 1) ณ วันที่ 1 มี.ค. เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 586 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ มากกว่าจีน ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 577 ราย 2) เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อซ้ำ โดยผู้หญิงอายุ 73 ปีที่ติดเชื้อและได้รักษาหายพบว่าติดเชื้ออีกครั้งในวันศุกร์ สหรัฐฯ จะออกกฎหมายให้อำนาจรัฐบังคับเพิ่มการผลิตอุปกรณ์ป้องกัน COVID-19 1) มีความเป็นไปได้ในการใช้พระราชบัญญัติบังคับการผลิตเพิ่มการผลิต อุปกรณ์ป้องกันที่สามารถสวมใส่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งรวมถึง หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันการติดเชื้อและถุงมือยาง 2) รวมไปถึงการคุ้มครองการผลิตในประเทศด้วย 3) ยอดขายของร้านอาหาร/ภัตตาคารจีนลดลงกว่าร้อยละ 50 อาจจะลุกลามต่อไปยังอาหารเอเซียชาติอื่นๆ รวมทั้งร้านอาหารไทยด้วย 4) หากสหรัฐฯ ออกกฎหมายบังคับการผลิตจริง จะเป็นผลให้สหรัฐฯ ลดการนำเข้าสินค้าหน้ากากอนามัยและชุดป้องกัน ไทย ประกาศโรคติดต่ออันตราย มีผลบังคับใช้ 1 มี.ค. 63 1) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563 ประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตราย 2) โดยมีบทลงโทษตามรายละเอียดรูปกราฟฟิกด้านล่าง 2. แนวโน้มตลาด: รายงานสถานการณ์ตลาดและแนวโน้มสินค้าอาหารในตลาดจีน ปี 2563 1) สถานการณ์ตลาดสินค้าอาหารในจีน 2) พฤติกรรมการบริโภคและแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน 3) ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 4) แนวทางการขยายตลาดสินค้าของไทย ก็เป็นสรุป การค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ประจำสัปดาห์นี้นะครับ เพื่อนๆ ท่านไหนมีข้อติชม แนะนำ หรือไม่อยากพลาดข้อมูลดีๆ แบบนี้ ก็แอด Line มาได้เลยที่ Line@Zupports (Z-U-P-P-O-R-T-S) Zupports มี @ นะครับ และก็ขอประชาสัมพันธ์ สำหรับเพื่อนๆ SMEs ที่อยากลดต้นทุนขนส่งระหว่างประเทศ อยากได้ราคาขนส่งเรทพิเศษดเทียบเท่าที่บริษัทใหญ่ๆ เขาได้กัน ทีมงานเราเปิดให้บริการแล้วนะครับ เพื่อนๆ สามารถไปลงทะเบียนกันได้ที่ www.zupports.co หรือทักมาทาง line@ ก็ได้ครับ
Sun, 01 Mar 2020 - 16min - 4 - สรุปข่าวการค้าวันที่ 17-23 ก.พ. 63 โดยก้าวทันการค้าโลกกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ตอนที่ 2
สัปดาห์นี้เรามาติดตามข่าวการค้า รอบโลกกันอีกเช่นเคย เริ่มกันที่ จีน 1) เริ่มที่สถานการณ์ Covid-19 ในจีน ท่านประธานสี บอกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อ ยังไม่ถึงจุดสูงสุด โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดวานนี้อยู่ที่ 78,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คนแล้ว 2) มีประเด็นที่น่ากังวลคือ มีรายงานจาก South China Morning Post ว่า ผู้ที่ติดเชื้อ รักษาจนอาการหายแล้ว มีโอกาสที่จะยังเป็นพาหะนำโรคได้อีก ไวรัสไม่ได้หายไปไหนยังอยู่ในตัวผู้ป่วย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของจีนยังไม่ยืนยันข่าวนี้ 3) ข่าวด้านการค้าที่น่าสนใจ คือ จีน สั่งซื้อหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคขับเคลื่อนด้วยตัวเอง จากประเทศเดนมาร์ก โดยหุ่นยนต์นี้จะใช้ลำแสงอัลตร้าไวโอเลต ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส ตายเรียบ ปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์แบบนี้กว่า 40 ประเทศทั่วโลก 4) ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่า “ผู้หญิงไม่เคยหยุดสวย” แต่ต้องบอกว่า Covid-19 ก็ทำให้ผู้หญิงเปลี่ยนความคิดเหมือนกัน โดยผลการสำรวจสุภาพสตรีจีน 1,000 คน ใน 29 มณฑล พบว่า 40% ไม่สนใจซื้อเครื่องสำอางช่วงนี้ และเครื่องสำอางกลุ่มที่ผู้บริโภคหยุดใช้ช่วงนี้ก็พวก ครีมกันแดด, มาสคาร่าปัดขนตา และ อายไลเนอร์ เป็นต้น เนื่องจากอยู่แต่ในบ้าน ไม่จำเป็นเท่าไหร่ ส่วนสิ่งที่ยังขาดไม่ได้ ก็คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า ครีม และเซรั่มบำรุงผิวหน้า สหรัฐ 1) Covid-19 ก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวสหรัฐเช่นกัน โดยสหรัฐฯ มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.8% ของ GDP โดยนักท่องเที่ยว 3 ลำดับแรกก็คือ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และก็จีน โดยช่วง 10 เดือนแรกของปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวจีน เยือนสหรัฐ 2.5 ล้านคน โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 6,500 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือประมาณ 200,000 บาท ซึ่งถือว่า คนจีนใช้จ่ายสูงสุดเทียบกับชาติอื่นๆ โดยมีการประมาณการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีน จะลดลง ประมาณ 28% และสหรัฐจะสูญเงินกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ธุรกิจท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบกันไป ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยว 2) สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ก็เริ่มเข้มข้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีการดีเบต เพื่อชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตที่จะไปแข่งกับทรัมป์ โดยกลับกลายเป็นว่า ไมเคิล บลูมเบิร์ก ถูกถล่มเละในการดีเบต โดย อลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกจากแมสซาชูเซตส์ กล่าวโจมตีว่า “เรากำลังแข่งกับมหาเศรษฐีที่เรียกผู้หญิงว่ายัยอ้วนและเลสเบียนหน้าม้า” “และฉันไม่ได้พูดถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ฉันพูดถึงนายกเทศมนตรีบลูมเบิร์ก” “เดโมแครตจะตกอยู่ในความเสี่ยงหากเราแค่เลือกมหาเศรษฐีทะนงตนคนหนึ่งไปแทนที่อีกคนนึ่ง” ก็ต้องติตตามว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เพราะนโยบายของท่านผู้นำสหรัฐฯ นี่กระทบทั้งโลกจริงๆฃ 3) ทางสำนกงานการค้าต่างประเทศเมือง ชิคาโก ออกรานงานที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวโน้มการค้าทาง e-commerce ในสหรัฐฯ โดยปัจจุบันการค้าอีคอมเมิร์สข้ามพรมแดน หรือ Cross Border e-commerce มีสัดส่วนสูงถึง 20% ของการค้าโลก ซึ่งผู้ประกอบการต้องศึกษาเอาไว้ ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาด e-commerce ในสหรัฐฯ กว่า 47% เป็นของ Amazon (อ่านว่า แอ-มะ-ซอน) ตามมาห่างๆ ด้วย e-bay ที่ 6.1%, Walmart 4.6%, Apple 3.8% และ Home Depot (คล้ายๆ Homepro) 1.7% อาเซียน 1) ข่าวดีของเวียดนาม แต่อาจเป็นข่าวร้ายของไทย โดย FTA อียู-เวียดนาม ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2563 ทำให้อัตราภาษีนำเข้าที่อียูจะเรียกเก็บจากเวียดนามโดยส่วนใหญ่จะลดลงเป็น 0% ขณะที่สินค้าไทยที่ถูกอียูตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)มาหลายปีแล้ว ต้องเสียภาษีนำเข้าอียูในอัตราสูง ตัวอย่างเช่น สิ่งทอเครื่องนุ่งห่มจากเวียดนาม ไปอียู ภาษีนำเข้าจะลดลงเป็น 0% ขณะที่สินค้าเครื่องนุ่งห่มที่ผลิตในประเทศไทยและส่งออกไปตลาดอียูต้องเสียภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่ 12.5% ทำให้ยิ่งเสียเปรียบในการแข่งขัน แนวทางผู้ประกอบการไทย คงต้องมองเรื่องจ้างเวียดนามผลิตสินค้าบางส่วน โดยคงเหลือไว้แต่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม ตัดเย็บยากกว่า ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยสัดส่วนกว่า 50% เป็นชุดเสื้อผ้ากีฬาของแบรนด์เนมดัง ๆ ที่เหลือเป็นชุดชั้นในชายและสตรี ชุดเสื้อผ้าเด็ก ชุดนอน 2) สิงคโปร์ปรับ GDP ในปี 2563 ลงมาที่ -0.5% ถึง 1.5% เนื่องจากการระบาดไวรัส COVID-19 พร้อมกับจัดงบประมาณเพื่อเยียวยาผู้ประกอบการณ์ทุกภาคส่วน และเลื่อนเวลาปรับขึ้นอัตราภาษี Goods and Services Tax (GST) จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 9 ออกไป โดยจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในปี 2564 ก็เป็นสรุป การค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ประจำสัปดาห์นี้นะครับ เพื่อนๆ ท่านไหนมีข้อติชม แนะนำ หรือไม่อยากพลาดข้อมูลดีๆ แบบนี้ ก็แอด Line มาได้เลยที่ Line@Zupports www.zupports.co
Sat, 22 Feb 2020 - 07min - 3 - 10-16 ก.พ. 63 ก้าวทันการค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ตอนที่ 1: จีน สหรัฐอเมริกาและอาเซียน
#ก้าวทันการค้าโลกไปกับนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ประจำสัปดาห์ที่ 10-16 ก.พ. 2563 สวัสดีเพื่อนๆ ที่ติดตามเพจนำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า ทุกท่าน ด้วยความที่สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากๆ แอดมินจึงอยากลองสรุปมาให้ฟังกันครับ ❤️ เริ่มกันที่สัปดาห์แห่งความรักนี่หล่ะ จะดีหรือไม่อย่างไร ก็ลองดูละกันนะพยายามย่อให้สั้นสุดๆ เน้นที่เกี่ยวกับการค้า, เศรษฐกิจ โดยหลักๆ แหล่งข้อมูลมา DITP ซึ่งทำรายงานแยกแต่ละประเทศดีมากๆ หากเพื่อนๆ มีข้อมูลเพิ่มอยากแชร์ หรืออยากติชม ก็คอมเม้นท์มาได้เลย เดี๋ยว Update เพิ่มในโพสนี้ 🇨🇳 จีน 1) เริ่มที่ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ได้ชื่อ ทางการจาก WHO เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า “COVID-19” หรือย่อมาจาก “COronaVIrus Disease starting in 2019” แหม่ ช่างตรงตัวมากๆ 2) จีน อยู่ๆ ก็ปรับวิธีนับตัวเลข จากที่ต้องส่งห้อง Lab แล้วรอผล 4 วัน เปลี่ยนเป็นใช้ดุลยพินิจของแพทย์ได้เลย ผลก็คือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ กระโดด จาก 44,000 ราย วันที่ 11 ก.พ. เป็น 59,000 รายในวันต่อมา 3) ด่านศุลกากรของจีนเริ่มกลับมาเปิดทำการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่ก็ยังมีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิคนเข้า-ออก อย่างเข้มงวด ทำให้ต้องใช้เวลาเคลียร์สินค้านานขึ้น ไม่ได้สะดวกรวดเร็วเหมือนช่วงปกติ 4) ทางด้าน นายจง หนานซาง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคระบบทางเดินหายใจนครกว่างโจว ให้สัมภาษณ์กับ Global Times เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า “โรคปอดอักเสบจาก COVID-19 จะเข้าสู่ช่วงพีค ในกลางเดือน หรือ ปลายเดือน กุมภาพันธุ์นี้ 5) การระบาดของ COVID-19 ในจีน ทำให้มีธุรกิจหลายๆอย่างได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเทรนด์การบริโภคจาก Offline ไป Online ไม่ว่าจะเป็น e-commerce, Food delivery, บันเทิง, การศึกษา อย่างเช่น การสั่งสินค้าเกษตรออนไลน์ เพิ่มขึ้น 1-3 เท่าตัว โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่นซุปเปอร์มาร์เกตเหอม่า Fresh Hema ของ Alibaba 6) ผลกระทบทางเศรษฐกิจจีน คงต้องรอดูสถานการณ์ว่ายืดเยื้อไหม แต่ตอนนี้ที่โดนไปเต็มๆ และเกี่ยวเนื่องกับไทย ก็คือ สินค้าเกษตร พวกผลไม้ และอีกอย่างหนึ่งคือ สินค้าประมง เนื่องจากหลายๆ เมืองในจีนประกาศระงับการค้าขายสัตว์มีชีวิต ทำให้ประชาชนหวาดกลัว ทำให้ยอดนำเข้า ลอบสเตอร์เอย แซลมอนเอย ลดลงอย่างมาก อาจกระทบชิ่งมาไทย ได้ทานของพวกนี้ในราคาที่ถูกลงก็เป็นได้ (แต่ก็กระทบผู้ค้าในประเทศเรา) 🇺🇸 สหรัฐ 1) สืบเนื่องจาก ตัวเลขอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ New High ต่อเนื่อง (ตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นไทย) ทำให้คาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายในวันแห่งความรักจะสูงขึ้น จาก 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เติบโตกว่า 35% 2) เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายในประเทศ โดยเทศกาลวันแห่งความรัก จัดเป็นเทศกาลลำดับ 4 ที่เงินสะพัด รองมาจาก 3 ลำดับแรก ก็คือ วันหยุดปลายปี, วันเปิดเทอม, และวันแม่ (ช่วง พ.ค. นะ ไม่ใช่ ส.ค. เหมือนบ้านเรา) 3) ปีนี้คาดว่าผลผลิตข้าวของสหรัฐฯ จะลดลง เนื่องจากน้ำฝนมากเกินไป ทำให้ข้าวไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มประมาณ 11% ซึ่งส่วนใหญ่คือข้าวหอมไทย นี่แหล่ะ เป็นข่าวดี กลบข่าวร้ายที่จีนนิดนึง 4) อย่างไรก็ตาม การที่จีนเซ็นต์สัญญาซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มากขึ้น รวมไปถึงข้าวด้วย ก็อาจเป็นคู่แข่งกับข้าวไทยในจีน 🇹🇭++ อาเซียน 1) จากสถานการณ์ COVID-19 ประเทศที่โดนหนักที่สุดน่าจะสิงคโปร์ รองมาก็ไทยเรานี่แหล่ะ สัปดาห์นี้ นายก ลี ก็ไปตรวจที่สนามบิน Changi และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยนายกลี ยอมรับว่าผลประกอบครั้งนี้ หนักกว่า SARS มาก เพราะเศรษฐกิจผูกกับจีน มากกว่าคราวที่แล้วมากๆ 2) ตอนนี้ 10 อาเซียน เชื่อมโยง eForm D สมบูรณ์แล้ว ก็จะทำให้การค้าขายระหว่างชาติในอาเซียน สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ภาษี 0% เป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ประกอบการไม่ต้องไปยื่นเอกสารแต่ละประเทศ มายื่นที่ไทย แล้วระบบจะยิงให้ Auto (เจ๋งมาก!) 3) กัมพูชา โดน EU เล่นงานถอนสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร หรือ GSP ของสินค้าบางประเภท เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และน้ำตาล โดยอ้างเหตุผลเรื่องสิทธิมนุษยชนและแรงงาน การยุบพรรคฝ่ายค้าน การจับกุมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านและสื่อมวลชนฝ่ายค้าน ซึ่งเรื่องนี้กระทบนักธุรกิจไทยโดยตรง อาจต้องมองหาฐานการผลิตสำรอง ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php… ก็สรุปมาให้แบบพอประมาณ เพียงเท่านี้นะครับ 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" https://zupports.co และหากต้องการปรึกษาเรื่องนำเข้าส่งออก แอดไลน์ @zupports ได้เลย
Sun, 16 Feb 2020 - 06min - 2 - EP.2 ชีวิตจริง ไม่เหมือนซินเดอเรลล่า
Casper บริษัทขายที่นอนออนไลน์ จากหนี้สิน หนึ่งแสนเหรียญสหรัฐฯ สู่สตาร์ทอัพ Unicorn หนึ่งพันล้านเหรียญ และ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียง 5 ปี พวกเขาทำได้อย่างไร? จุดเริ่มต้น ช่วงปลายปี ค.ศ.2013 ฟิลิป กริม และเพื่อนอีก 4 คน เกิดความคิดที่จะทำสตาร์ทอัพร่วมกันช่วงเริ่มต้นก็คิดกันว่าจะทำอะไรดี จนมาจบที่ธุรกิจการนอน นี่หล่ะ เพราะว่าคนเราทุกคนต้องนอน เกือบๆ 1 ใน 3 ของชีวิตทีเดียว จริงๆ แล้วผู้ก่อตั้งทั้ง 5 คน มีทักษะและทุนเดิมที่ส่งเสริมธุรกิจใหม่นี้เป็นอย่างดี คนหนึ่งมีเว็บไซต์ขายของ, อีกคนมีคุณพ่อเป็นแพทย์ดูแลการนอน ที่เหลือมีทั้ง เคยทำงานที่บริษัท Design ชั้นนำอย่าง IDEO, มีประสบการณ์ด้าน Branding, และ e-commerce ที่มาของชื่อ Casper มาจากผู้ร่วมก่อตั้งคนหนึ่งที่ชื่อว่า เชอร์วิน มีเพื่อนชาวเยอรมันที่ตัวใหญ่มาก ชื่อ "Kasper" ที่มีปัญหา เวลานอนต้องใช้เตียง 2 หลังตลอด ก็เลยคิดว่าใช้ชื่อ Kasper นี่แหล่ะ แต่เปลี่ยนเป็นตัว C แทนคือ "Casper" พวกเขา ตกผลึกไอเดียออกมาคือ การขายที่นอนคุณภาพเยี่ยม ผ่านช่องทางออนไลน์... พวกเขาเลยเอาไอเดียนี้ไปเสนอนักลงทุน ซึ่งก็แน่นอนว่า คำตอบที่ได้ ก็คือ... "นี่คุณกำลังคุยกับนักลงทุนในเทคโนโลยีนะ แต่คุณบอกว่าจะขายที่นอนออนไลน์ เนี่ยนะ มันไร้สาระสิ้นดี!" "นี่คุณกำลังบอกผมว่าคุณจะขายแค่ที่นอนแบบเดียวเนี่ยนะ?" แน่นอนว่าพวกเขาต้อง Pitch (นำเสนอ) คนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่มีนักลงทุนคยไหนเห็นด้วย และยอมให้เงินแม้แต่คนเดียว! พวกเขาก็เลย ใช้ทุนตัวเองในการเริ่มต้นธุรกิจ ทั้งต้องจ้างโรงงานผลิตสินค้าล็อตแรก ค่าโฆษณา จนต้องใช้บัตรเครดิต จนมีหนี้กว่า 3 ล้านบาท... หลังจากนำเสนอไปเรื่อยๆ ก็มีนักลงทุนสนใจจนได้ และลงทุนในบริษัท Casper ด้วยเงินทุนรอบ "Seed-round" ด้วยเงิน 1.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ กว่า 50 ล้านบาท) เรื่องของเรื่องก็คือ นักลงทุน ท่านนี้มีความคิดอยู่แล้วว่า ตลาดที่นอนควรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงสักที พอมาเจอทีม Casper และได้พูดคุย ก็เหมือนเจอ "คนที่ใช่" จึงยอมให้เงินทุน นอกจากนี้ ตลาดที่นอนในสหรัฐฯ ใหญ่มากกว่า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตลาดทั่วโลก กว่า 39,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ยอดขายหลังเปิดตัว และการขยายกิจการ หลังจากที่ได้รับเงินทุน ทาง Casper เปิดตัวเว็บไซต์ ในเดือน เมษายน ปี 2014 โดยตั้งเป้ายอดขายปีแรกไว้ที่ 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่หลังจากที่ ผ่านไป 2 เดือน พบว่า ยอดขายได้เป้าทั้งปีไปเรียบร้อย ด้วยกลยุทธ์ปูพรมทุ่มงบการตลาดออนไลน์ทั้ง เช่น โซเชียลมีเดีย พอดคาสต์ โดยเฉพาะการจ้างดาราดัง มาโพสอินสตาแกรม โฆษณาขายของให้ และด้วยการที่ปกติที่นอน คนก็อยากจะลองนอนก่อนซื้อ ทาง Casper ก็เลยออกนโยบายให้ทดลองนอนก่อนถึง 100 วัน! ตัวที่นอนเองก็ราคาตั้งแต่ประมาณ 11,000 บาท ไปจนถึง 85,000 บาท พอยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด ก็เลยดึงดูดนักลงทุน รวมไปถึงดาราขั้นนำอย่าง ลีโอนาโด ดิคาปริโอ กับ อดัมเลอวีน ก็มาลงทุนกับเค้าด้วย โดยปี 2019 บริษัทมีเงินลงทุนรวม 340 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีมูลค่ากิจการสูงถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นยูนิคอร์นสมใจ! นอกจากนี้ Casper เองไม่ได้หยุดแค่เตียงนอน แต่ขยายไลน์สินค้าไปให้ครอบคลุมอุปกรณ์ในห้องนอนทั้งหมด ผู้บริหารหมายมั่น ที่จะเป็นเจ้าแห่งอุตสาหกรรมการนอน หรือ เป็น "Nike แห่งการนอน" ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พอขายดี คู่แข่งก็ไม่อยู่นิ่ง ทั้งร้านขายที่นอนออนไลน์รายใหม่ รวมไปถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart ก็มาเล่นด้วย รวมๆ ปัจจุบันมีคู่แข่งกว่า 175 ราย!! หากเราลองไปดูผลประกอบการย้อนหลังกันดู ปี 2017 รายได้ 251 ล้านเหรียญฯ ขาดทุน 73 ล้านเหรียญฯ ปี 2018 รายได้ 356 ล้านเหรียญฯ ขาดทุน 93 ล้านเหรียญฯ ปี 2019 (9M) รายได้ 312 ล้านเหรียญฯ ขาดทุน 67 ล้านเหรียญฯ ที่เห็นขาดทุนเยอะแบบนี้ สาเหตุหลักก็มาจากค่าใช้จ่ายในการขายและค่าการตลาดนั่นแหล่ะ เป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของรายได้เลยทีเดียว และล่าสุด สงสัยบริษัทเงินหมด ก็เลยต้องระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยยอมลดมูลค่ากิจการลงเหลือ เพียง 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พอดูสตาร์ทอัพช่วงหลังๆ ที่ขาดทุนเรื้อรังแต่ยังเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้ง UBER, WeWork และล่าสุดคือ Casper ก็ดูจะคล้ายๆเทพนิยาย เรื่อง ซินเดอเรลล่า จากลูกเศรษฐีตกยาก จนต้องเป็นคนรับใช้พอได้สวมรองเท้าแก้วก็กลายเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ชั่วขณะ แล้วก็กลับมาตกยาก แต่ในที่สุดก็ Happy Ending ก็น่าติดตามนิทานยูนิคอร์นของโลกตะวันตก ว่าคนแต่งจะตื่นเมื่อไหร่? 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" https://zupports.co และหากต้องการปรึกษาเรื่องนำเข้าส่งออก แอดไลน์ @zupports ได้เลย
Fri, 07 Feb 2020 - 06min - 1 - Ep.1 ความขี้เกียจ คือ เคล็ดลับ ในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ
ความขี้เกียจ คือ เคล็ดลับ ในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน คงตั้ง New Year's resolution หรือ “ปณิธานปีใหม่” กันเอาไว้ แต่ผ่านมา 1 เดือน เราได้เริ่มทำสิ่งที่ตั้งเป้าไว้หรือยัง? หรือว่ามัวแต่วุ่นกับการแก้ปัญหาน้ำเค็ม, ฝุ่น PM2.5, และไวรัสโคโรนา – ซึ่งแอดมินก็เป็นหนึ่งในนั้น วันนี้แอดมินมีเคล็ดลับมานำเสนอ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นก็คือ การใช้ “ความขี้เกียจ” แต่ “ความขี้เกียจ” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง การนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรนะ แต่เป็นการใช้ “ความพยายาม” ให้ “น้อยที่สุด” ในการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ลองมาดูตัวอย่างที่แอดมินได้เรียนรู้จากพี่ท่านหนึ่ง กันดูว่า เราจะใช้แนวคิดความขี้เกียจ มาทำให้เป้าหมายสำเร็จได้อย่างไร? ไปติดตามกันเลย ----------------------------------------------------------- พี่ท่านนี้มีเป้าหมายที่น่าจะเหมือนเพื่อนๆ หลายๆคน คือ ลดน้ำหนักลง 5 กิโลกรัม ภายในปี 2562 แต่ผ่านไปจนถึงช่วงปลายปี ของปีที่แล้ว กลับพบว่าจากเป้าที่ตั้งไว้ น้ำหนักดันเพิ่มขึ้นอีก 5 กิโลกรัม คือ ปกติคนก็จะคิดว่า หากจะลดน้ำหนักก็ต้องควบคุมทั้งเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอทุกวัน ซึ่งในหัวก็คิดวนไปวนมา จนสุดท้าย ไม่ได้ทำซักที (เพราะมัวแต่ไปขยันทำงานอื่น) พอมาถึงปลายปี ยังไม่ได้เป้า ก็เลยกลับมาคิดทบทวนใหม่ว่า การที่จะลดน้ำหนักนั้น หากใช้วิธีทางฟิสิกส์ขั้นสูง (เฮ้ย! ไม่ขนาดนั้น) ก็คือ การทำให้ Input น้อยกว่า Output (เข้าให้น้อยกว่าออก น้ำหนักก็ลดเนอะ) ก็เลยเริ่มที่ปัญหาแรกละกันคือ เรื่อง Input แต่พอคิดแบบคนขี้เกียจคำนวณ คือ จะให้มานั่งนับแคลอรี หรือ คุมอาหารการกินก็วุ่นวายเกินไป พี่เขาก็เลย Fasting หรือ งดมื้อเย็นซะเลย จาก 3 มื้อ ลดเหลือ 2 มื้อ อันนี้ Input ลดชัวร์ๆ ----------------------------------------------------------- ถัดมาก็คือ เรื่องการออกกำลังกาย ตอนแรกก็นึกถึงเครื่องวิ่ง แต่หากซื้อมาไว้ที่บ้านก็คงหนีไม่พ้นการเป็น “ที่ตากผ้า” แน่ๆ แต่ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่ขาดอุปกรณ์ แต่คือ “ออกกำลังกายแล้วเบื่อ” ต่างหาก ก็เลยมองว่าหากปกติช่วงดึกๆ ก็นั่งเล่น iPad อยู่แล้ว หากมีเครื่องที่สามารถออกกำลังกายไปด้วย และเล่น iPad ไปด้วยก็น่าจะตอบโจทย์ และพอได้โจทย์เพิ่มว่าอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านใช้ได้ด้วย ก็เลยจบที่การซื้อจักรยานแบบมีที่พิงหลัง ที่มีที่วาง iPad เอาไว้ปั่นออกกำลังกายในบ้าน ช่วงเริ่มต้นออกกำลังกาย ก็เริ่มแบบน้อยสุดก่อน คือ ปั่น 30 นาที แล้วหยุด พอทำไปเรื่อยๆ ก็สามารถปั่นได้ทุกวัน และเพิ่มเวลาเป็น 1 ชั่วโมงต่อวัน ผลจากการงดมื้อเย็น และการปั่นจักรยานทุกวัน ก็คือ น้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม ใน 3 เดือน ผ่านเป้าหมายต้นปีที่แล้วที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ!! ----------------------------------------------------------- จากนั้นก็ยังไม่แล้วใจ คือ การปั่นจักรยาน มันออกกำลังกาย “ขา” ก็เลยเพิ่มการออกกำลังกาย “แขน” ด้วยท่า Planking ก่อน ก็เริ่มสูตรเดิม คือ เริ่มน้อยๆก่อนคือ Plank 30 วินาทีต่อครั้ง ทำ 5 ครั้ง จนล่าสุด ทำอยู่ที่ 1 นาที 20 วินาทีต่อครั้ง ทำ 5 ครั้ง ซึ่งก็ได้ผลมากทีเดียว ได้เหงื่อ!! (ต้องเอาไปลองดูบ้างแล้ว) ----------------------------------------------------------- หลักคิดนี้ ตรงกับที่ แดเนียล คานีแมน เขียนไว้ในหนังสือ Think Fast, and Slow ไว้ว่า “การที่มนุษย์พยายามควบคุมตัวเองเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก หากเราบังคับตัวเองให้ทำอะไรในครั้งแรก เราจะไม่อยาก หรือไม่สามารถบังคับตัวเองทำสิ่งนั้นๆ เป็นครั้งที่สอง” นั่นคือ “กฎของการใช้ความพยายามน้อยที่สุด” คือ มนุษย์ขี้เกียจโดยธรรมชาติ หากมีทางเลือกที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุด เราก็จะเลือกทางนั้น ------------------------------ แนวคิดนี้จริงๆ แล้ว แพร่หลายมากๆ เป็นสูตรสำเร็จของสตาร์ทอัพยูนิคอร์นทั้งหลายเลยทีเดียว ณ วันแรกที่เริ่มต้น คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด และหากแค่คิดว่าต้องแก้ปัญหาทั้งหมดก็คงถอดใจ เลิกดีกว่า แต่ด้วย ความขี้เกียจ กลับทำให้สตาร์ทอัพเหล่านั้นเลือกปัญหามาแก้ได้ตรงจุด แถมยังพยายามหาวิธี ที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุด อีกด้วย! (ก็สถานการณ์มันบังคับ คือเวลาและเงินมีจำกัด) สตาร์ทอัพทำสำเร็จได้ พี่คนนั้นก็ลดน้ำหนักได้ ดังนั้นพวกเราก็ต้องทำได้!! หากใครเคยใช้วิธีแบบนี้แล้วสำเร็จเหมือนกัน คอมเม้นท์ได้เลยนะ และหากเห็นว่าบทความเป็นประโยชน์ อย่าลืมกดไลค์ และแชร์ให้เพื่อนๆ ด้วย เพื่อนๆที่ขี้เกียจ อยากหาคนช่วยลดต้นทุนขนส่ง (นำเข้า-ส่งออก) ติดต่อ LINE: @Zupports (มีแอด) ได้เลย หรือ Inbox 😀 💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ กดติดดาว "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" https://zupports.co
Thu, 06 Feb 2020 - 04min
Podcasts semelhantes a นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า
- นิทานชาดก 072
- พี่อ้อยพี่ฉอด พอดแคสต์ CHANGE2561
- หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม dhamma.com
- People You May Know FAROSE podcast
- รุ่นเก๋า...เล่าเกร็ด Hoy Apisak
- เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี karunabuakamsri
- ลงทุนแมน longtunman
- Mission To The Moon Mission To The Moon Media
- ไหนๆ ก็เล่าแล้ว Nai Nai Kor Lao Laew
- พระเจอผี Podcast Prajerpee
- เคาะข่าวค่ำ radio tonews
- SONDHI TALK sondhitalk
- TED Talks Daily TED
- คุยให้คิด Thai PBS Podcast
- พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) Thammapedia.com
- พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) Thammapedia.com
- The Secret Sauce THE STANDARD
- THE STANDARD PODCAST THE STANDARD
- ความสุขโดยสังเกต THE STANDARD
- คำนี้ดี THE STANDARD
- ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย 6:30 – 7:00 น. - วอย VOA
- Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) watpasukato
- พุทธวจน พุทธวจน
- หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ