Filtrar por género

- 2114 - [คลิปสั้น] สัมมาสมาธิ 2 ชนิด หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 22 ม.ค. 66 (660122)Fri, 22 Sep 2023 - 02min
- 2113 - ศีลและสมาธิเพื่อการเจริญปัญญา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 ส.ค. 2566
เราเดินตามแผนผังที่พระพุทธเจ้าวางไว้ให้เรา อย่ากระโดดข้ามขั้น ไม่ใช่ไม่มีศีล ก็โดดขึ้นไปทำสมาธิ ไม่มีศีลแล้วไปทำสมาธิได้ไหม ก็ได้ แต่มันก็จะเกเรแบบเทวทัต เทวทัตทำสมาธิได้แต่เทวทัตไม่มีศีล สุดท้ายเทวทัตก็ลงอเวจี เจริญปัญญาโดยไม่มีสมาธิ ก็เป็นไปไม่ได้ แบบเรียนที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเรา มีขั้นมีตอน มีลำดับที่ชัดเจน ก่อนเจริญปัญญานั้นต้องมาฝึกจิตให้ตั้งมั่นก่อน ก่อน ที่จะลงมือฝึกจิตนั้น ต้องตั้งใจรักษาศีล 5 ให้ได้ก่อน ให้เด็ดเดี่ยวลงไป ถ้าเรารักษาศีลของเราไว้ได้ดี เราจะไม่ทำชั่วทางกาย ทางวาจา เราจะเหลือความชั่วทางใจ ซึ่งอันนี้ล่ะเราจะล้างมันด้วยสมาธิและปัญญา ศีลเป็นเครื่องขัดเกลากายวาจาเราให้สะอาดหมดจด ไม่ทำผิดทางกาย ทางวาจา สมาธิและปัญญาเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจให้สะอาดหมดจด แต่มันมี 2 ขั้นตอน ขั้นสมาธิคือการเตรียมจิตให้พร้อมสำหรับการเจริญปัญญา สมาธิอันแรก สงบ สบาย ทำให้สดชื่น มีเรี่ยวมีแรง วิธีคือน้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุขอย่างต่อเนื่อง สมาธิอันที่สอง ปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยสติ ฉะนั้นเราทำกรรมฐานอันเดิมนั่นล่ะ แต่ไม่ได้ทำเพื่อมุ่งให้จิตมีความสุขความสงบอะไรอีกต่อไปแล้ว เราทำกรรมฐานแล้วก็คอยรู้ทันจิตตัวเองไว้ พยายามฝึกให้จิตมันตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูไว้ แล้วดูกายมันทำงาน ดูใจมันทำงาน เบื้องต้นก็เห็นกายเห็นใจมันทำงาน เบื้องปลายลึกลงไปอีกก็เห็นกายนี้ก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ จิตใจก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ ก็เห็นอย่างนี้ไป เรียกว่าต่อไปพอเรารู้แจ้งแทงตลอด กายนี้คือตัวทุกข์ จิตนี้คือตัวทุกข์ นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรตั้งอยู่ นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับไป อันนี้เรียกว่ารู้จริงในสังขารทั้งหลาย สังขารก็คือขันธ์ 5 นั่นล่ะ คือกายคือใจเรานั่นล่ะ พอเรารู้จริงในสังขารเรียกว่าเราล้างอวิชชาได้ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 20 สิงหาคม 2566
Thu, 21 Sep 2023 - 55min - 2112 - [คลิปสั้น] เห็นจิตเจริญแล้วเสื่อม หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 22 ม.ค. 66 (660122)Thu, 21 Sep 2023 - 01min
- 2111 - [คลิปสั้น] ดูกายกับดูจิตจะต่างกัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 21 ม.ค. 66 (660121)Wed, 20 Sep 2023 - 02min
- 2110 - อสุรกายเป็นที่พึ่งของเราไม่ได้ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 ส.ค. 2566
คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ เรามีผลประโยชน์เป็นสรณะ คนในโลกนี้ เขาไหว้หมด ยุคโบราณเขาไหว้ภูเขา ไหว้แม่น้ำ ไหว้ต้นไม้ เดี๋ยวนี้ยังไหว้ต้นไม้อยู่ ขุดเจอตอไม้ก็เอามาไหว้กัน หรือถูหาเลข แล้วก็มโนไหว้โน้นไหว้นี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบหรอก ถ้าเราสังเกตให้ดีเราจะเห็น มันจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมาให้เราไหว้เรื่อยๆ ยุคหนึ่งก็ไหว้จตุคาม มาถึงวันนี้ไหว้อสุรกาย มันไปกันใหญ่แล้ว ทำไมคนต้องเที่ยวหาที่พึ่งภายนอก เพราะว่าไม่สามารถพึ่งตัวเองได้ ใจมันอ่อนแอ การพึ่งตัวเองแล้วเรียนรู้ตัวเองไป ตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านสอน ที่พระอรหันตสาวกท่านสอน ลงมือปฏิบัติไป จนกระทั่งเรารู้ธรรมชาติทั้งหลาย มันเป็นไปตามเหตุ สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ถ้าเหตุดับสิ่งนั้นก็ดับ ถ้าไม่มีเหตุสิ่งนั้นมันก็ไม่เกิด เราภาวนาเรื่อยๆ เราจะเห็น สิ่งทั้งหลายมีเหตุมันก็เกิด หมดเหตุมันก็ดับ บังคับมันไม่ได้ อย่างเราจะมีความสุข หรือเราจะมีความทุกข์ เราจะไปร้องขอให้เทวดาช่วยเราไม่ให้ทุกข์หรือ ไปขออสุรกายช่วยให้เรามีความสุข เขาเหล่านั้นก็มีความทุกข์ ไม่ได้ต่างกับเราหรอก เทวดาเขาก็ทุกข์อย่างเทวดา ผีมันก็ทุกข์อย่างผี สัตว์นรกมันก็ทุกข์อย่างสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉานมันก็ทุกข์ ทุกข์มากๆ เลย เขาจะมาเป็นที่พึ่งที่อาศัยของเราได้อย่างไร เขาเองยังทุกข์อยู่ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้เราไปดูถูกคนอื่น ดูถูกเทวดา พรหม หรือภูติผีปีศาจอะไร ท่านสอนให้เรามองเขาในฐานะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมทุกข์ คือยังทุกข์อยู่ด้วยกัน เหมือนเพื่อนเรายังลำบากมาก เราก็ยังพยายามไปเรียก ให้เขาช่วยโน่นช่วยนี่อีก มันไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย อย่างพวกอสุรกายมันลำบากมาก เราก็จะไปไหว้ จะเอาตัวอะไรไปบูชายัญอะไรอย่างนี้ หวังจะให้ช่วยเรา มันยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเลิก ชาวพุทธเราต้องเลิกที่จะเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่งของเรา เราต้องเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง เรียนรู้ธรรมะไป เข้าใจวิธีปฏิบัติแล้วลงมือปฏิบัติ ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม แค่ไหนสมควร ก็ปฏิบัติเต็มสติเต็มกำลังของเรานั่นล่ะ เรียกว่าปฏิบัติโดยสมควร ถ้าเราปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ธรรมะนั้นจะคุ้มครองเรา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 19 สิงหาคม 2566
Tue, 19 Sep 2023 - 1h 12min - 2109 - [คลิปสั้น] สุดท้ายก็มาลงที่เดียวกัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 21 ม.ค. 66 (660121)Tue, 19 Sep 2023 - 02min
- 2108 - [คลิปสั้น] ประโยชน์ของสมาธิในทางโลก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 ม.ค. 66 (660115)Mon, 18 Sep 2023 - 03min
- 2107 - หน้าที่ของเราคือแหกคุกให้ได้ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 ส.ค. 2566
จิตใจเราไม่มีอิสระ จิตใจเราเป็นทาส ไม่มีความสุขที่แท้จริง เฝ้ารู้เฝ้าดู เวลาตัณหาเกิดทีไรความทุกข์เกิดทุกที ดูลงไปอย่างนี้เลย แล้ว เราจะเห็นจิตใจนี้ไม่เคยมีความสุข เพราะจิตใจนี้ไม่ค่อยว่างจากตัณหาหรอก มีความทุกข์เกิดขึ้นตลอดเวลา เฝ้ารู้เฝ้าดู ตอนหลวงพ่อเป็นโยมภาวนา หลวงพ่อพบว่าจิตเหมือนคนติดคุก ถูกขังอยู่ในคุก แล้วมันก็เป็นคุกที่ป่าเถื่อน ตัณหาเป็นผู้คุมเราอีกที แล้วสั่งงานเราอยู่ในคุกตลอดเวลา คุกที่ขังจิตมันเคลือบครอบคลุมจิตอยู่ ตัวนี้คือตัวอาสวกิเลส มันครอบคลุมจิตใจเราไว้ ห่อหุ้มจิตใจเราไว้ แทรกซึมเข้าไปในจิตใจ แล้วก็ผลักดันให้เกิดตัณหาบงการบังคับจิตใจทั้งวันทั้งคืน พอภาวนามาเห็นตรงนี้ หลวงพ่อยอมไม่ได้แล้ว แต่เดิมคิดว่าเราอิสระ แต่ตอนนี้รู้ความจริงแล้วว่าจิตใจเราไม่ได้อิสระ จิตใจเราเกิดมาก็เป็นทาสแล้ว ยอมไม่ได้ ต้องแหกคุกนี้ให้ได้ ถ้ายังทำลายคุกอันนี้ไม่ได้ จะไม่เลิกปฏิบัติหรอก คล้ายๆ หน้าที่ของเราคือแหกคุก แหกคุกก็คืออาสวกิเลสมันห่อหุ้มจิตใจเราไว้ แล้วตัณหามันก็บงการจิตใจเรา เฝ้ารู้เฝ้าดูลงไป เรียนรู้ลงไป ในที่สุดก็ทำลายนายทาสตัวนี้ลงไป แต่มันทำลายเป็นระดับๆ ไป อยู่ๆ ไปทำลายตัณหา ทำไม่ได้ จะทำลายตัณหาได้ต้องทำลายอวิชชาได้ ความไม่รู้ ของเราตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ของเราภาวนาไป เห็นไปร่างกายไม่ใช่ตัวเราที่แท้จริง จิตใจไม่ใช่ตัวเราที่แท้จริง เพราะจิตใจเป็นของที่เราสั่งอะไรก็ไม่ได้ ดูอย่างนี้ก่อน แล้วขั้นปลายค่อยไปดูว่าร่างกายคือตัวทุกข์ จิตใจคือตัวทุกข์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 13 สิงหาคม 2566
Sun, 17 Sep 2023 - 1h 04min - 2106 - [คลิปสั้น] ทำทานเพื่อลดละความเห็นแก่ตัว หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 ม.ค. 66 (660115)Fri, 15 Sep 2023 - 02min
- 2105 - หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 11 ส.ค. 2566Fri, 15 Sep 2023 - 40min
- 2104 - [คลิปสั้น] ปรากฏการณ์ที่ไหลผ่านไป หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 ม.ค. 66 (660114)Thu, 14 Sep 2023 - 02min
- 2103 - [คลิปสั้น] วัตถุประสงค์ของการภาวนา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 ม.ค. 66 (660114)Wed, 13 Sep 2023 - 02min
- 2102 - [คลิปสั้น] โอฆตรณสูตร หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 ม.ค. 66 (660108)Tue, 12 Sep 2023 - 03min
- 2101 - [คลิปสั้น] สมาธิไม่ถูก ไม่บรรลุมรรคผล หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 ม.ค. 66 (660108)Mon, 11 Sep 2023 - 01min
- 2100 - [คลิปสั้น] เราจะรักษาจิตได้อย่างไร หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 ม.ค. 66 (660107)Fri, 08 Sep 2023 - 02min
- 2099 - [คลิปสั้น] โลกไม่มีที่สิ้นสุด ธรรมมีที่สิ้นสุด หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 ม.ค. 66 (660107)Thu, 07 Sep 2023 - 03min
- 2098 - [คลิปสั้น] สิ่งที่บัณฑิตทั้งหลายปรารถนา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 ม.ค. 66 (660107)Wed, 06 Sep 2023 - 01min
- 2097 - [คลิปสั้น] ความปรารถนาดีมีพลังแรง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 ม.ค. 66 (660101)Tue, 05 Sep 2023 - 02min
- 2096 - [คลิปสั้น] ชาวพุทธพูดแต่เรื่องเหตุกับผล หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 ม.ค. 66 (660101)Tue, 05 Sep 2023 - 01min
- 2095 - ธรรมะภาคปฏิบัติ : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 12 ส.ค. 2566
เราตั้งอกตั้งใจฝึกตัวเอง ถือศีล 5 ทุกวันทำในรูปแบบ ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง แล้วก็คอยรู้ทันจิตตนเอง อย่าเพ่ง อย่าจ้อง แค่รู้ทันจิต จิตหนีไปคิด รู้ จิตถลำไปเพ่ง รู้ เวลาที่เหลือเจริญสติในชีวิตประจำวัน เจริญสติในชีวิตประจำวันก็คือ มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีจมูกก็ดมกลิ่น มีลิ้นก็รู้รส มีกายก็รู้สัมผัส มีใจก็คิดนึกได้ ไม่ใช่ห้ามคิด แต่เมื่อกระทบอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้ว จิตใจเรามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เกิดสุขให้รู้ เกิดทุกข์ให้รู้ เกิดกุศลให้รู้ เกิดอกุศลให้รู้ หรือจิตไปทำงานทางตาให้รู้ ไปทำงานทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ให้รู้ รู้เท่าที่รู้ได้ ไม่ต้องรู้เยอะอย่างที่หลวงพ่อบอก เอาเท่าที่เรารู้ได้ นี่ล่ะงาน 3 ตัว ถือศีล 5 ทำในรูปแบบ แล้วคอยสังเกตจิตตนเอง งานที่ 3 คือเจริญสติในชีวิตประจำวัน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ แล้วมีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นที่จิตให้รู้ทัน ถ้าทำ 3 ประการนี้ได้ มรรคผลนิพพานไม่อยู่ไกลเราหรอก ไม่ได้อยู่ไกลแล้ว ไม่เกินเอื้อม ขอให้ทำให้ต่อเนื่อง อดทน ฟังธรรมะพอเข้าใจ พอรู้หลักแล้ว สิ่งสำคัญมากคืออดทน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 12 สิงหาคม 2566
Sun, 03 Sep 2023 - 1h 04min - 2094 - [คลิปสั้น] ร่างกายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวเรา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ธ.ค. 65 (651231)Fri, 01 Sep 2023 - 02min
- 2093 - [คลิปสั้น] อย่ายอมแพ้ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ธ.ค. 65 (651231)Thu, 31 Aug 2023 - 02min
- 2092 - วิปัสสนาปัญญา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 ส.ค. 2566
บางคนนั่งสมาธิ จิตรวม นั่งทีเดียวยันสว่างเลย นั่งได้ 10 ชั่วโมง แล้วก็อยู่เฉยๆ อย่างนั้น ไม่ได้มีการเจริญปัญญาอะไร ออกจากสมาธิมา จิตมันติดใจในความสุขความสงบของสมาธิ ไม่เห็นว่ามันเป็นราคะ หรือพอติดในความสุขความสงบของสมาธิแล้ว ออกมากระทบอารมณ์นิดเดียวระเบิดเลย โทสะพุ่งกระฉูดเลย ฉะนั้นไปทำให้นิ่งๆ เฉยๆ อยู่ ไม่ล้างกิเลสหรอก ตกเป็นเครื่องมือของกิเลสอีก ฉะนั้นตัวที่จะสู้กิเลสล้างกิเลสได้จริงคือตัวปัญญา ตัวความรู้ถูกความเข้าใจถูก พระพุทธเจ้าบอกบุคคลถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา ปัญญาก็คือเห็นไตรลักษณ์นั่นล่ะ ถึงจะเป็นปัญญาระดับที่สู้กิเลสได้ เรียกว่าวิปัสสนาปัญญา ถึงจะสู้กิเลสได้จริง วิปัสสนะ แปลว่า การเห็น เห็นอย่างถูกต้อง วิ แปลว่าเห็นแจ้ง แปลว่าแจ่มแจ้ง ปัสสนะ แปลว่าการเห็น เห็นอย่างแจ่มแจ้ง เห็นกายเป็นไตรลักษณ์ เห็นจิตใจเป็นไตรลักษณ์ นั่นล่ะเรียกว่าเห็นแจ่มแจ้ง อันนั้นล่ะถึงจะเป็นวิปัสสนา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 6 สิงหาคม 2566
Wed, 30 Aug 2023 - 1h 05min - 2091 - [คลิปสั้น] ดูแลรักษาจิตของเราด้วยสติ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 25 ธ.ค. 65 (651225)Wed, 30 Aug 2023 - 02min
- 2090 - [คลิปสั้น] เจริญสติในชีวิตประจำวัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 25 ธ.ค. 65 (651225)Tue, 29 Aug 2023 - 02min
- 2089 - ทุกขาปฏิปทา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 5 ส.ค. 2566
ภาวนาอย่ากลัวทุกข์ อย่ากลัวลำบาก อดทนเอา แต่ว่าดูตัวเอง ถ้ากิเลสของเราเป็นพวกกิเลสเบาบาง ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติโหดๆ ถ้าพวกกิเลสหนา ราคะแรง โทสะแรง หรือโมหะแรง พวกนี้ต้องทุกขาปฏิปทา อดนอน ผ่อนอาหาร นั่งสมาธิ เดินจงกรม ให้ห้าวหาญ สู้ตาย ถ้ารอดมาก็จะได้ดี แต่บอกให้อย่างหนึ่ง ไม่เคยมีใครนั่งสมาธิแล้วตายหรอก ไม่เคยมีใครปฏิบัติแล้วตายหรอก เพราะฉะนั้นอ่อนแอไม่ได้ ดูตัวเองเลย ถ้าเป็นคนที่กิเลสรุนแรง อดทนไว้ ขยันนั่งสมาธิ ขยันเดินจงกรม นั่งสมาธิก็สังเกตกาย สังเกตใจไว้ นั่งสมาธิแล้วสังเกตไป เออ ร่างกายมันเป็นตัวเจ็บ แต่ร่างกายมันไม่บ่น ตัวที่บ่นคือจิต จิตมันไม่ยอมรับว่ากายนี้เป็นตัวทุกข์ จิตมันเลยทุรนทุราย พอรู้ทันจิต จิตมันก็เป็นกลาง พอจิตมันเป็นกลาง จิตไม่มีความทุกข์ จิตก็รวมเข้าสมาธิเลย วูบเดียว 2 ชั่วโมง ไม่แปลก บางทีเข้าทีเดียวยันสว่างก็มี คือถ้าจิตใจเราสบาย นั่งสมาธิแป๊บเดียวก็สงบแล้ว ถ้าจิตใจเรากระสับกระส่าย โอ๊ย ไม่ชอบเลย ปวดอย่างนี้ มันไปนั่งได้อย่างไร เมื่อไรจะหาย นั่งสมาธิพอขาปวด ไม่ใช่นั่งเพื่อให้ขาหายปวด แต่นั่งเพื่อให้ใจยอมรับ ใจเป็นกลาง ร่างกายมันปวด ใจไม่ได้ปวดด้วย ใจก็เป็นกลาง สบาย พอใจเป็นกลาง สมาธิมันก็เกิด สมาธิเกิดบางทีก็พักผ่อนอยู่เฉยๆ บางทีก็เดินปัญญาต่อได้เลย ก็เห็นนอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรตั้งอยู่ นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป ปัญญามันเกิด บางทีก็ได้มรรคได้ผลไปเลย หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 5 สิงหาคม 2566
Mon, 28 Aug 2023 - 59min - 2088 - ปฏิบัติบูชา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 ส.ค. 2566 (ช่วงบ่าย)
ตรงที่คิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จิตมีปีติ มีความสุข มีสมาธิเกิดขึ้น แล้วถ้าเราพัฒนาต่อไป เราคอยสังเกตจิตใจเรา มีสติกำกับอยู่ที่จิตเรื่อยๆ ไป ต่อไปจิตมันจะตั้งมั่นขึ้นมา อย่างที่หลวงพ่อเคยทำ หลวงพ่อทำอานาปานสติแล้วรู้ทันจิต ไม่ได้ทำเพื่อสงบ เพื่อสุข เพื่อดีอะไรทั้งสิ้น ทำอานาปานสติ หายใจออกรู้สึก หายใจเข้ารู้สึก พอจิตมันหลงไป รู้ทันว่าจิตหลง จิตไปเพ่งลมหายใจ รู้ว่าจิตเพ่ง จิตก็เลยไม่เผลอ จิตก็เลยไม่เพ่ง จิตก็ตั้งมั่นเด่นดวงอยู่ในทางสายกลาง พอจิตเราอยู่ในทางสายกลางได้ เราก็เดินปัญญา แยกธาตุ แยกขันธ์ เห็นร่างกายกับจิตคนละอัน เห็นเวทนากับจิต เป็นคนละอัน เห็นสัญญา สังขาร กับจิตเป็นคนละอัน เห็นจิตเกิดดับทางทวารทั้ง 6 หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป อันนั้นขั้นเจริญปัญญา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 สิงหาคม 2566 (ช่วงบ่าย)
Sun, 27 Aug 2023 - 39min - 2087 - [คลิปสั้น] เหตุของความพ้นทุกข์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 23 ธ.ค. 65 (651223)Fri, 25 Aug 2023 - 01min
- 2086 - ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 ส.ค. 2566 (ช่วงเช้า)
สิ่งแรกที่พระพุทธเจ้าสอนพระปัญจวัคคีย์ ในพระสูตรพูดไม่กี่ประโยคว่า มีสิ่ง 2 สิ่ง มีธรรม 2 อย่าง ที่บรรพชิตคือผู้ปฏิบัติไม่ควรเสพ คือกามสุขัลลิกานุโยค แล้วก็อัตตกิลมถานุโยค ท่านพูดสั้นๆ พอเราเข้าสู่ทางสายกลางได้แล้ว ทำอย่างไร ท่านก็ให้เรียนรู้ สิ่งที่เรียกว่าอริยมรรคมีองค์ 8 เวลาจะปฏิบัติ ท่านสอนสัมมาทิฏฐิ อันนี้สัมมาทิฏฐิภาคปริยัติ เสร็จแล้วเราก็ลงมือปฏิบัติ ดูแลความคิดของเรา อะไรอยู่เบื้องหลังความคิด คำพูด การกระทำ คอยรู้ไปเรื่อยๆ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ก็จะดี การที่เรามีสติคอยสังเกตจิตใจเรา อะไรอยู่เบื้องหลังความคิด นั่นก็คือการเจริญสติ เป็นสัมมาสติ แล้วสัมมาสติ เมื่อเราทำถูกต้อง ไม่ได้บังคับให้รู้ สติที่ถูกต้องเกิด ไม่ได้เจตนาระลึก ระลึกได้เอง สัมมาสติเมื่อทำให้มาก ก็จะทำให้สัมมาสมาธิบริบูรณ์ จิตมันจะเข้าฐาน ตั้งมั่น เด่นดวงขึ้นมา สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์ ทำให้มากทำให้เจริญ จะทำให้สัมมาญาณะบริบูรณ์ขึ้นมา สัมมาญาณะคือการรู้ถูก เข้าใจถูก คือวิปัสสนาญาณทั้งหลายนั่นเอง เมื่อสัมมาญาณะบริบูรณ์ สัมมาวิมุติ คือมรรคผลนั้นจะเกิดเอง ไม่มีใครทำให้เกิดได้ ไม่มีใครสั่งจิตให้บรรลุมรรคผลได้ จิตบรรลุมรรคผลของจิตเอง เมื่อศีล สมาธิ ปัญญานั้นบริบูรณ์ เมื่อองค์มรรคทั้ง 8 นั้นบริบูรณ์ แล้วตัดสินความรู้กันในชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น นี่คือใจความธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 สิงหาคม 2566 (ช่วงเช้า)
Thu, 24 Aug 2023 - 51min - 2085 - [คลิปสั้น] วิธีการฝึกให้มีสติ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 23 ธ.ค. 65 (651223)Thu, 24 Aug 2023 - 02min
- 2084 - จริตเพื่อการทำวิปัสสนา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 30 ก.ค. 2566
ถ้าใครเขาถามเราว่าจะดูอะไรก่อนในการเริ่มลงมือปฏิบัติ คำตอบคือดูตัวเอง เราเป็นคนชนิดไหน แล้วก็เลือกกรรมฐานที่มันพอเหมาะพอดีกับตัวเรา หรือเวลาเราจะเดินวิปัสสนา เราจะดูอะไรก่อน เราก็ดูตัวเองก่อน เรามีจริตแบบไหน จริตของคนทำสมถะมี 6 จริต ราคจริต โทสจริต โมหจริต พุทธิจริต สัทธาจริต วิตกจริต มี 6 จริตเพื่อการทำวิปัสสนานั้นมี 2 จริต คือตัณหาจริตกับทิฏฐิจริต ตัณหาจริตคือพวกรักสุขรักสบาย รักสวยรักงาม ทิฏฐิจริตคือพวกช่างคิด ชอบวิเคราะห์ วิจัย วิจารณ์ มีอะไรหน่อยหนึ่งก็คิดแล้วคิดอีกอยู่นั่น ค่อยๆ ดู กรรมฐานมีเยอะแยะไปหมด เลือกเอาที่เหมาะกับตัวเรา ถ้าเป็นพวกตัณหาจริต พวกรักสุขรักสบาย รักสวยรักงาม ดูกายหรือเวทนาทางกายไป ถ้าเป็นพวกเจ้าความคิดเจ้าความเห็นอะไรนี่ ก็ดูจิตตานุปัสสนา ดูจิตกับเจริญธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน 2 อันนี้เหมาะกับพวกทิฏฐิจริต ฉะนั้นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน มันเหมาะกับพวกตัณหาจริต พวกรักสุขรักสบาย รักสวยรักงาม จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน กับธัมมานุปัสสนา มันเหมาะกับทิฏฐิจริต พวกเจ้าความคิดเจ้าความเห็น หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช 30 กรกฎาคม 2566
Wed, 23 Aug 2023 - 1h 11min - 2083 - [คลิปสั้น] รู้ทันความโกรธแล้วทำไมไม่หายโกรธสักที หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 ธ.ค. 65 (651218)Wed, 23 Aug 2023 - 03min
- 2082 - [คลิปสั้น] พระโปฐิละ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 ธ.ค. 65 (651218)Tue, 22 Aug 2023 - 02min
- 2081 - [คลิปสั้น] ยุคนัทธสูตร หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 ธ.ค. 65 (651218)Mon, 21 Aug 2023 - 02min
- 2080 - เราเดินบนเส้นทางที่เราเดินได้ : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 29 ก.ค. 2566
บางคนชอบสมาธินำปัญญา ก็เรียนวิธีปฏิบัติแบบสมาธินำปัญญาไป บางคนชอบเจริญปัญญาในฌาน ก็ทำสมาธิกับปัญญาควบกัน ส่วนพวกปัญญานำสมาธิ ทำสมาธิเบื้องต้นระดับขณิกสมาธิ ใช้กำลังของขณิกสมาธิ มาเรียนรู้รูปนาม หลวงพ่อดูพวกเรา คนรุ่นนี้ ให้ไปนั่งเข้าฌานมันเข้าไม่ไหว อย่าว่าแต่โยมเลย พระที่เข้าฌานได้ก็เหลือน้อยเต็มที ไม่ค่อยมีหรอก ส่วนมากก็นั่งสมาธิ ก็เคลิ้มง่อกแง่กๆ ไป ไม่ก็นั่งเพ่งจนเคร่งเครียดไป คนรุ่นหลังทำสมาธิไม่ค่อยเป็น เวลาจะทำสมาธิ มันกลายเป็นมิจฉาสมาธิเสียหมดเลย มันมีหลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่เราควรเดิน ก็คือเส้นทางที่เราเดินได้ เส้นทางที่เราเดินได้ ก็คือเส้นทางของปัญญานำสมาธิ คนรุ่นนี้เป็นพวกปัญญาชนเยอะ คนใช้ปัญญา แต่การเดินด้วยปัญญา ต้องมีขณิกสมาธิเสียก่อน สมาธิที่เป็นขณะๆ นั่นล่ะ พอมีสมาธิทีละขณะถี่ๆ ขึ้นมา จิตก็มีกำลัง รู้ตื่นเบิกบานขึ้นมา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 29 กรกฎาคม 2566
Mon, 21 Aug 2023 - 1h 10min - 2079 - อย่าทิ้งจิตตนเอง : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 23 ก.ค. 2566
ถ้านิมิตใดๆ เกิด ไม่ต้องไปค้นคว้าว่าจริงหรือปลอม ให้ย้อนกลับมาที่จิตตนเอง นิมิตนั้นจะเสื่อมสลายไปหมดเลย อย่างเวลาเรานั่งสมาธิอยู่ แล้วเราเห็นเทวดามาเยอะแยะอย่างนี้ เราอย่ามัวไปดูเทวดา ย้อนมาที่จิต จิตสงสัยว่าจริงหรือปลอม พอเราเข้าถึงจิตแล้วกลับย้อนออกไปดู อันนี้เป็นศิลปะที่เราไม่แนะนำให้ฝึก แต่ว่ามันออกไปรู้ ถ้าเป็นนิมิตปลอม มันจะหายไปหมดแล้ว นิมิตปลอมจะดับหมด ในทันทีที่เราย้อนเข้ามาที่จิตตนเอง ฉะนั้นเวลานิมิตเกิด ย้อนมาที่จิตตนเองก่อน แล้วถ้าจะต้องการรู้ข้างนอก ค่อยกลับออกไปรู้ ถ้าเป็นของจริงก็ยังอยู่ ถ้าเป็นของเก๊ก็หายหมด แต่ว่าไม่มีสาระอะไร รู้ว่าเทวดาจริงๆ มา แล้วมันได้อะไร ได้มานะอัตตา กูใหญ่ กูเก่ง โหย เทวดายังมาไหว้กู มีแต่เรื่องกิเลส ฉะนั้นอย่าไปหลงนิมิต ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นให้ย้อนเข้าที่จิตตนเองไว้ จับหลักให้แม่น ปลอดภัยที่สุด กัลยาณมิตร ไม่รู้ว่าใครเป็นกัลยาณมิตร สิ่งที่จะช่วยเราได้คือโยนิโสมนสิการ การแยบคายในการสังเกตตัวเอง ฉะนั้นนิมิตเกิดขึ้นก็แยบคาย ย้อนเข้ามาที่จิตตนเอง อย่าทิ้งจิตตนเอง แล้วจะไม่พลาด หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 23 กรกฎาคม 2566
Fri, 18 Aug 2023 - 1h 10min - 2078 - ปฏิจจสมุปบาท : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 22 ก.ค. 2566
ในปฏิจจสมุปบาทนั้นจะมีสภาวธรรม 3 ลักษณะ อันแรกเป็นส่วนของกิเลส ต่อมาเป็นส่วนของกรรม คือพฤติกรรมของจิตนั่นล่ะ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นตัววิบาก เป็นผล มีกิเลส มีกรรม มีวิบาก ในปฏิจจสมุปบาทนั้น วนเวียนอยู่ในเรื่องเหล่านี้ ลึกที่สุดอะไรเป็นกิเลส อวิชชาเป็นกิเลส อวิชชาเป็นหัวโจก เป็นหัวหน้าของกิเลส คือความไม่รู้แจ้งอริยสัจเป็นหัวโจก แล้วอวิชชาก็ทำให้ผลักดันให้เกิดการกระทำกรรม การกระทำกรรมตัวนี้เรียกว่าสังขาร “อวิชชา ปัจจยา สังขารา” อวิชชาเป็นปัจจัยของสังขาร สังขารเป็นการกระทำกรรมของจิตแล้ว เพราะมีสังขารก็เกิดวิบาก มีการกระทำกรรมแล้วก็เกิดวิบาก อะไรบ้างที่เป็นวิบาก ตัวจิต ตัววิญญาณ ที่หยั่งลงสู่ความรับรู้อารมณ์เป็นวิบาก ตัวอายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเป็นวิบาก ตัวผัสสะ การกระทบอารมณ์เป็นวิบาก เราเลือกไม่ได้ว่าจะกระทบอารมณ์ดี หรืออารมณ์ไม่ดี ถ้าอกุศลวิบากให้ผลมา เรากระทบอารมณ์ไม่ดี กุศลวิบากให้ผลมา เราก็กระทบอารมณ์ดี ผัสสะเป็นวิบาก ถัดจากนั้นก็เกิดเวทนาขึ้นอัตโนมัติ เวทนาก็เป็นวิบาก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 22 กรกฎาคม 2566
Thu, 17 Aug 2023 - 53min - 2077 - วิ่งหาความสุข : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 16 ก.ค. 2566
ความสุขอยู่ตรงไหน จับต้องไม่ได้ ไม่ชัดเจน สิ่งหนึ่งคนนี้สุข อันเดียวกันอีกคนไม่สุข บางคนคิดว่ามีชื่อเสียงแล้วจะมีความสุข มีคนรู้จักเยอะๆ แล้วมีความสุข เหมือนเจ้าหญิงไดอานา คนรู้จักเยอะ มีชื่อเสียง มีความสุขไหม ไม่มี ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย ทำอะไรคนก็คอยจ้องถ่ายรูปอยู่เรื่อย พยายามหนีๆ แล้วไปรถชนกันตายอยู่ในอุโมงค์อะไรนั่น ดูๆ ไป เกิดมาวัตถุประสงค์เพื่อหาความสุข ความสุขเหมือนภาพลวงตา เหมือนเหยื่อที่อยู่ข้างหน้า หลอกให้เราวิ่งไปหาตลอดเวลา แล้วก็ไม่เจอ พระพุทธเจ้าท่านมีสติมีปัญญาสูง ท่านไม่ได้สอนให้เราวิ่งหาความสุข มันเหมือนภาพลวงตา หาเท่าไรก็ไม่เจอเสียที ท่านบอกว่าเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเรา ต้องพ้นจากความทุกข์ให้ได้ คือท่านมีสติมีปัญญาสูง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 16 กรกฎาคม 2566
Wed, 16 Aug 2023 - 1h 09min - 2076 - อย่าเป็นเด็กอ่อนตลอดกาล : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 กรกฎาคม 2566
การปฏิบัติธรรมต้องช่วยตัวเอง ครูบาอาจารย์ช่วยได้แค่บอกทางให้ พวกเราต้องเดินด้วยตัวเองให้ได้ อย่าทำตัวเป็นเด็กทารกแรกเกิดตลอดไป ไม่ได้ แรกๆ ก็อาจจะเหมือนเด็กทารก พ่อแม่ต้องประคบประหงมหน่อย พอโตได้ ต้องโตด้วยตัวเองให้ได้ การปฏิบัติก็เหมือนกัน ครูบาอาจารย์ช่วยเรา ตอนเรายังไม่รู้วิธีปฏิบัติ คล้ายๆ พ่อแม่สอนให้รู้จักยืน ให้รู้จักเดิน ส่วนจะยืนไหม จะเดินไหม จะวิ่งได้ไหม อยู่ที่ตัวเราเอง จะยืนหยัดอยู่ได้ไหม พวกเราต้องไปทำเอาเอง ต่อไปหลวงพ่อคงจะไม่จ้ำจี้จำไชพวกเรามากเกินไปแล้ว ที่ผ่านมาหลวงพ่ออยากให้พวกเราภาวนาเก่ง ภาวนาดี ไม่เถลไถล หลวงพ่อเข้าไปควบคุมเยอะ เมื่อคืนวันพฤหัสนั่งสมาธิอยู่ ก็ได้ยินเสียงครูบาอาจารย์ ท่านบอกให้หลวงพ่ออุเบกขาได้แล้ว กรรมใคร กรรมมัน ถ้าหลวงพ่อไปจู้จี้กับพวกเรา อยากให้พวกเราดี อยากให้ได้ธรรมะอะไรอย่างนี้ จู้จี้มากไป บางคนเข้าใจก็ดี บางคนไม่เข้าใจ โกรธ บาปกรรมเปล่าๆ ท่านว่าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ดูแลตัวเองให้ดีหน่อย คนไหนใจเปิดรับธรรมะ ก็ไม่ยากอะไรหรอก ถ้าใจไม่รับก็ปล่อยแล้วนะ ปล่อยแล้ว แบกพวกเราไม่ไหวแล้ว ชรามากแล้ว ถ้าเป็นฆราวาสนี้เกษียณไปนานแล้ว ช่วยตัวเองให้ได้ เดินด้วยตัวเองให้ได้ อย่าเป็นเด็กอ่อนตลอดกาล ยังเดินไม่ได้ ยังยืนไม่ได้ คลาน คลานไป แล้ววันหนึ่งต้องยืนขึ้นให้ได้ ยืนแล้วต้องเดินให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ครูบาอาจารย์คอยประคับประคองอีกต่อไป ต้องช่วยตัวเองให้ได้ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 15 กรกฎาคม 2566
Tue, 15 Aug 2023 - 1h 02min - 2075 - วางอุเบกขากับลูกศิษย์ : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 ก.ค. 2566
ที่ผ่านมา หลวงพ่อก็มองพวกเรา ด้วยความเมตตาสงสาร ไม่อยากให้ทุกข์นาน พยายามจ้ำจี้จ้ำไชพวกเรา บางคนก็รู้สึก หลวงพ่อจู้จี้เหลือเกิน บีบคั้นบังคับมากเหลือเกิน จะให้ทำอย่างโน้น จะไม่ให้ทำอย่างนี้ เบื่อ เบื่อหน่าย อยากจะตามใจกิเลส ที่หลวงพ่อพยายามสอนพวกเรา ไม่ใช่เพื่อตัวหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อสงสาร เห็นอกเห็นใจ เราก็เคยทุกข์ เคยลำบากมาก่อนในการปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าสบาย อดทนมากเลยในการฝึกตัวเอง ทีนี้เคี่ยวเข็ญพวกเราเยอะๆ บางคนก็เบื่อ บางคนก็รำคาญ ไม่ได้ทำอะไรตามใจชอบ เมื่อคืนหลวงพ่อก็ภาวนา ก็นอน ได้ยินเสียงครูบาอาจารย์ ท่านมาบอกให้อุเบกขา เราหามทุกคนไปนิพพานไม่ได้หรอก สอนให้แล้วก็แล้วกัน ทำก็เจริญ ไม่ทำก็ไม่เจริญ ท่านสั่งหลวงพ่อบอกว่า ให้อุเบกขาได้แล้ว เราไปแบกทุกคนไปนิพพาน ทำไม่ได้หรอก ทีนี้ครูบาอาจารย์สั่งแล้ว หลวงพ่อก็ทำ ต่อไปนี้จะไม่จ้ำจี้จ้ำไชอีกต่อไปแล้ว ถ้าสอนก็สอนรวมๆ อย่างนี้ จะไม่ไปไล่กวดขันทีละคนแล้ว เอาตัวเองให้รอดก็แล้วกัน จะฟังพระธรรม หรือจะฟังกิเลส ตัดสินเอาเอง เลือกทางเอาเอง ไม่มีใครทำกรรมฐานแทนใครได้หรอก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 14 กรกฎาคม 2566
Mon, 14 Aug 2023 - 24min - 2074 - [คลิปสั้น] หัดหมายรู้ให้ถูก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 ธ.ค. 65 (651217)Sat, 12 Aug 2023 - 02min
- 2073 - [คลิปสั้น] จิตเกิดดับสืบเนื่องกันมา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 ธ.ค. 65 (651217)Fri, 11 Aug 2023 - 02min
- 2072 - [คลิปสั้น] ภาวนาแปลว่าอะไร หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 ธ.ค. 65 (651211)Thu, 10 Aug 2023 - 01min
- 2071 - [คลิปสั้น] วิปัสสนาไม่มีการแก้อารมณ์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 ธ.ค. 65 (651211)Wed, 09 Aug 2023 - 01min
- 2070 - [คลิปสั้น] เราต้องซ้อมรบ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 ธ.ค. 65 (651211)Tue, 08 Aug 2023 - 01min
- 2069 - [คลิปสั้น] ดูจิตให้ว่างเป็นสมถกรรมฐาน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ธ.ค. 65 (651210)Mon, 07 Aug 2023 - 01min
- 2068 - รู้เข้ามาที่กายที่ใจของเรา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 9 กรกฎาคม 2566
เราอยู่กับร่างกาย อยู่กับจิตใจของเรามาแต่ไหนแต่ไร แต่คนในโลกไม่ได้เรียนรู้ร่างกายจิตใจของตัวเอง ลืมไปหมดแล้ว มัวสนใจแต่สิ่งอื่น ของข้างนอก สนใจรูปมากกว่าสนใจลูกตาตัวเอง สนใจเสียงมากกว่าสนใจหู สนใจกลิ่นมากกว่าสนใจจมูก สนใจรสชาติมากกว่าสนใจลิ้น สนใจสิ่งที่มาสัมผัสร่างกายมากกว่าจะสนใจร่างกาย สนใจเรื่องราวที่คิด นึก ปรุง แต่ง ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายมากกว่าจะสนใจจิตใจตัวเอง มีคนจำนวนมากบอกปฏิบัติมาหลายสิบปีเลย มันก็ได้แค่นั้น พอมาฟังหลวงพ่อพูด เรื่องเจริญสติเรื่องอะไร จิตใจก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว ธรรมะของพระพุทธเจ้า ถ้าทำถูกจะไม่เนิ่นช้า เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ไม่เนิ่นช้า ถ้าเนิ่นช้า แสดงว่าต้องมีอะไรพลาดแล้ว อันแรกเลย ปฏิบัติไม่ถูก อันที่สอง ปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง ทำแล้วก็หยุดๆ พวกตุ่มรั่ว ที่หลวงพ่อเรียก พวกตุ่มรั่ว พอเขารู้จักการเจริญสติ จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะกินอาหาร จะขับถ่าย จะทำอะไร ก็รู้สึกกาย รู้สึกใจไปเรื่อยๆ สติก็ไวขึ้นๆ พอสติมันเกิด สมาธิที่แท้จริงมันก็เกิด เพราะสัมมาสติที่ทำให้มาก เจริญให้มาก จะทำให้สัมมาสมาธิบริบูรณ์ ฉะนั้นเราจะต้องพัฒนาสัมมาสติให้ได้ ด้วยการทำสติปัฏฐานนั่นล่ะ มิฉะนั้นเราจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ คนอื่นเขาก็เดินจงกรม เขานั่งสมาธิ แต่เขาเดินเพื่อความสุข เพื่อความสงบ เพื่อความดี เราจะเดินจงกรม จะนั่งสมาธิ เพื่อพัฒนาสติและสัมมาสมาธิ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 9 กรกฎาคม 2566
Tue, 01 Aug 2023 - 1h 00min - 2067 - อย่ามัวแต่เถลไถล : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 กรกฎาคม 2566
จิตนี้มันหยิบขันธ์เอาไว้ รู้สึกว่าดี สวยงาม ดีงาม แต่สติปัญญาแก่กล้าแล้ว ขันธ์นี้คือตัวทุกข์ คราวนี้จ้างให้ก็ไม่หยิบแล้ว ไม่ต้องพยายามที่จะไม่หยิบ มันไม่หยิบเอง เพราะเห็นตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายความยึดถือ เพราะคลายความยึดถือจึงหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ชาติสิ้นแล้ว ชาติก็คือการที่จิตหยิบฉวยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่น สิ้นแล้ว พรหมจรรย์คือการประพฤติปฏิบัติธรรมจบแล้ว เรียนหนังสือจบแล้ว จบลงที่ไหน จบลงที่จิตมันหลุดพ้นแล้ว มันพ้นแล้ว มันไม่มีงานที่จะต้องทำต่อ เพื่อจะให้จิตหลุดพ้น ไม่ต้องทำแล้ว หลุดแล้วหลุดเลย ฉะนั้นชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้นไม่มีอีกแล้ว มันรู้สึกอย่างนั้น นั่นล่ะที่สุดของทุกข์ ที่สุดของทุกข์มันอยู่ตรงธรรมนั้นเอง สิ่งที่เรียกว่าธรรมะตัวนี้ เป็นธรรมะเหนือโลก เหนือขันธ์ เหนือวัฏสงสาร ไม่อย่างนั้นยังไม่มีจุดสิ้นสุด ก็ยังเวียนว่ายไปเรื่อยๆ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด แค่เข้าใกล้ แล้วปุถุชนอย่างพวกเรา มันจะเห็นไหม ไม่เห็นหรอก ต้องฝึกตัวเองให้มาก อย่าวุ่นวายเถลไถล ที่น่าห่วงเลยก็คือพวกเราชอบเถลไถล ตั้งใจภาวนาเอาจริงเอาจัง ยังไม่ค่อยจะรอดเลย แล้วเถลไถล แล้วมันจะรอดหรือ มันไปไม่รอดหรอก นี่ล่ะกฎแห่งกรรม ใครทำคนนั้นก็ได้ ไม่ทำก็ไม่ได้ หรือทำในทางที่ไม่ดีมันก็ไม่ได้ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 8 กรกฎาคม 2566
Sun, 30 Jul 2023 - 1h 00min - 2066 - จะออกจากวัฏสงสารต้องเด็ดเดี่ยวอดทน : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 2 กรกฎาคม 2566
พยายามยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้นๆ ไป อดทน ไม่อดทนทำไม่ได้หรอก เส้นทางนี้ มันน่าเบื่อ ให้มันเด็ดเดี่ยวๆ อดทน ล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นไร ล้มแล้วลุกขึ้นมา เดินต่อ ลงไปคลุกฝุ่น ลุกไม่ไหว เราคลานไป อย่าอยู่กับที่ แล้ววันหนึ่งเราก็จะพ้นจากความทุกข์อันมหาศาล ค่อยทุกข์น้อยลงๆ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรียบ เหมือนคนหลงป่าแล้วป่านี้มืดทึบเลย ไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวัน มืด พื้นก็มีแต่ทาก ต้นไม้ก็มีแต่หนาม เดินทางไหนก็หนามทิ่มหนามตำอะไรอย่างนี้ ท่านก็บอก วัฏสงสารก็อย่างนั้นล่ะ มันทุกข์ทั้งนั้น หันซ้ายก็ทุกข์ หันขวาก็ทุกข์ แต่ต้องอดทนค่อยๆ คลำทางออกไป ค่อยๆ ถางทางออกไป จากป่ารกทึบ มีแต่เสี้ยนหนาม มันก็จะเข้าสู่ป่าโปร่งมากขึ้น หนามมันก็อยู่ห่างๆ คราวนี้รู้จักหลบ รู้จักหลีก มีทางให้หลบแล้ว ตอนอยู่ในป่าทึบ หันซ้ายหันขวา โดนหมด แล้วต่อมาก็ออกมาที่ชายทุ่งได้ ออกมาที่บ้านที่เมืองได้ ท่านเปรียบเทียบอย่างนี้ อดทน ฉะนั้นอดทน จำเป็น ต้องอดทนอดกลั้น อย่าตามใจกิเลสตัวเอง ถ้าตามใจกิเลสตัวเอง มันมีแต่ต่ำลงๆ แล้วบางคนตามใจกิเลสตัวเอง แต่ว่ามันฉลาด แก้ตัวให้กิเลส หาเหตุผลว่าอันนี้ดีๆ อันนี้ต้องทำๆ เถลไถลไปเรื่อยๆ อันนั้นแก้ตัวให้กิเลส ลืมไปว่าชีวิตของคนไม่ได้ยั่งยืนอะไร คนที่อายุถึงร้อยปีมีสักกี่คน แล้วอายุมากๆ ร่างกายเสื่อม สมองเสื่อม ภาวนาลำบาก ตอนที่ยังแข็งแรง รีบภาวนา เหมือนตอนที่แข็งแรงอยู่ รีบหาทางออกจากป่าให้ได้ ป่านี้ก็คือวัฏสงสารนั่นเอง มีเสี้ยนหนามอยู่รอบตัว ก็คือมีความทุกข์ตลอด หันซ้ายก็ทุกข์ หันขวาก็ทุกข์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 2 กรกฎาคม 2566
Thu, 27 Jul 2023 - 59min - 2065 - มรรค คือศีล สมาธิ ปัญญา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 กรกฎาคม 2566
ที่สุดของทุกข์ก็อยู่ตรงที่สุดของขันธ์ ค่อยๆ ฝึก ก่อนจะถึงจุดนี้ ขั้นแรกก็ต้องเรียนรู้ทุกข์ให้ดี เราไม่ต้องพยายามดิ้นรนที่จะประจักษ์พระนิพพาน แจ่มแจ้งพระนิพพาน ไม่ต้อง ให้รู้ทุกข์ให้ดี เครื่องมือที่เราจะต้องพัฒนาตัวเองก็เรียกว่ามรรค ก็คือศีล สมาธิ ปัญญา เรามีศีล ใจเราจะได้ไม่วอกแวก เรามีสมาธิเพื่อให้ใจเรามีกำลัง ตั้งมั่น เด่นดวงอยู่ สามารถเอาไปเจริญปัญญา คือเรียนรู้ความจริงของรูปนามกายใจได้ เมื่อเรียนรู้ความจริงของรูปนาม เห็นรูปนามอย่างที่มันเป็นแล้ว ไม่ใช่อย่างที่เราคิดจะเป็น คนทั่วไปปฏิบัติธรรมก็อยากมีความสุข อยากไม่ทุกข์ อันนั้นเรียกว่ายังไม่ยอมรับความจริง ถ้ายอมรับความจริงก็คือเห็นความจริง รูปนามคือตัวทุกข์ จะไปอยากให้มันไม่ทุกข์ ไม่ได้ มันคือตัวทุกข์ ท่านบอกว่า “เพราะเห็นตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย” เบื่อหน่ายอะไร เบื่อหน่ายในธาตุในขันธ์นั่นล่ะ “เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายความยึดถือ เพราะคลายความยึดถือจึงหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว” หลุดพ้นจากอะไร หลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในรูปนามนั่นล่ะ พอหลุดพ้นจากรูปจากนามได้ ก็เรียกว่าพ้นทุกข์ หลุดออกจากรูปนามได้ เพราะรู้แจ้งเห็นจริง ว่ารูปนามนี้คือตัวทุกข์ มันจะวาง ฉะนั้นหน้าที่เรารู้ทุกข์ รู้ทุกข์ไปเรื่อยๆ เครื่องมือสำคัญในการรู้ทุกข์ ก็คือสติกับปัญญา สติเป็นตัวรู้สภาวะที่กำลังมีกำลังเป็น ปัญญาจะรู้ลักษณะของสภาวะที่มีที่เป็นอยู่ สภาวะก็คือรูปธรรมนามธรรม สติเป็นตัวรู้ทัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 กรกฎาคม 2566
Wed, 26 Jul 2023 - 1h 04min - 2064 - ฝึกจิตให้มีกำลังเพื่อเดินปัญญา : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 25 มิถุนายน 2566
ตรงที่เราสามารถเห็นรูปธรรมร่างกายนี้เป็นไตรลักษณ์ เราก็ขึ้นวิปัสสนาแล้ว ตรงที่เราสามารถเห็นได้ ว่าสุขทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เราก็ขึ้นวิปัสสนาแล้ว ตรงที่เห็นกุศลอกุศลทั้งหลายเกิดขึ้น อย่างความโกรธเกิดขึ้น เราก็เห็นมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อันนั้นเราก็ขึ้นวิปัสสนาแล้ว ลำพังเห็นตัวสภาวธรรมก็เป็นปัญญาขั้นต้น ยังไม่ได้ขึ้นวิปัสสนา จะขึ้นวิปัสสนาต่อเมื่อเห็นความจริงของสภาวธรรมทั้งหลายทั้งปวง ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทั้งรูปธรรมทั้งนามธรรม เราจะเห็นได้จิตเราต้องมีกำลัง ที่หลวงพ่อจ้ำจี้จ้ำไชพวกเรา สังเกตให้ดีเถอะ สิ่งที่หลวงพ่อสอนเป็นเรื่องของการฝึกจิตให้มีกำลังในเบื้องต้น จิตเรามีกำลังตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมาแล้ว ขั้นต่อไปก็คือเดินปัญญา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 25 มิถุนายน 2566
Tue, 25 Jul 2023 - 1h 06min - 2063 - อย่าเป็นตุ่มรั่ว : หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 มิถุนายน 2566
เราพยายามพัฒนาสติของเราตั้งแต่ตื่นจนหลับ คอยเอาสตินี้ล่ะอ่านจิตอ่านใจตัวเองไป ศีลเราจะดี สมาธิเราจะพัฒนา จะไม่มีลักษณะของตุ่มรั่ว เรามีสติอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้ ถึงเวลานั่งสมาธิแป๊บเดียวก็สงบแล้ว ไม่ยาก แต่ถ้าฟุ้งซ่านทั้งวัน ไปนั่งสมาธิก็นั่งฟุ้งๆ แป๊บเดียวก็หลับ ทำไมหลับเก่ง จิตเหนื่อยเต็มทีแล้ว ฟุ้งซ่านมาทั้งวันแล้ว ต้องการพักแล้ว แต่ถ้าเรามีสติอยู่ทั้งวัน จิตไม่เหนื่อย ร่างกายอาจจะเหนื่อย พักผ่อนเสียหน่อยหนึ่งก็หาย แต่จิตไม่เหนื่อย สมมติร่างกายเราเหนื่อยมากจริงๆ ก็นอน นอนไปหายใจเข้าพุท หายใจออกโธไป จิตใจกลับไปคิดเรื่องงาน คิดเรื่องคนอื่น วุ่นวายขึ้นมา มีสติรู้ทัน ฉะนั้นการปฏิบัติ พยายามมีสติรู้ทันจิตใจตัวเองไป ศีลก็จะเกิดขึ้น สมาธิก็จะเกิดง่าย พอเรามีสติ เรามีศีล เรามีสมาธิแล้ว มันเกื้อกูลให้เกิดปัญญา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 มิถุนายน 2566
Mon, 24 Jul 2023 - 1h 04min - 2062 - หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 19 มิถุนายน 2566Sun, 23 Jul 2023 - 22min
- 2061 - [คลิปสั้น] เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลาน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ธ.ค. 65 (651210)Fri, 21 Jul 2023 - 02min
- 2060 - [คลิปสั้น] การทำแท้งบาปไหม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ธ.ค. 65 (651204)Thu, 20 Jul 2023 - 01min
- 2059 - ปัญญารวบยอด : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 มิถุนายน 2566
ถ้าจิตเกิดคิดขึ้นมาแล้วเราเป็นคนรู้ ความคิดนั้นจะขาดสะบั้นทันทีเลย แล้วเราจะเห็นสภาวะสุขเกิดดับ เกิดแล้วดับ ทุกข์เกิดแล้วดับ ดีเกิดแล้วดับ ชั่วเกิดแล้วดับ รูปหายใจออกเกิดแล้วดับ รูปหายใจเข้าเกิดแล้วดับ รูปยืนเกิดแล้วดับ รูปนั่งรูปนอนรูปอะไรก็ตามเกิดแล้วก็ดับ เห็นซ้ำๆๆ สุดท้ายจิตมันจะสรุป มันปิ๊งขึ้นมาเลยนะว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดดับเป็นธรรมดา ทำไมใช้คำว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่จริงก็คือ Everything ที่เกิด ทุกสิ่งที่เกิด ทำไมไม่บอกว่าสุขเกิดแล้วดับทุกข์เกิดแล้วดับ เพราะปัญญาตัวนี้เป็นปัญญารวบยอด รวบยอดว่าทุกสิ่งที่เกิดล้วนแต่ดับทั้งสิ้น มันรวบยอดระดับนี้ มันถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งเลย กายเรานี้พอเราเข้าใจแจ่มแจ้ง ก็แค่วัตถุยืมโลกมาใช้ชั่วคราว ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา ความรู้สึกสุขทุกข์ ความรู้สึกดีชั่วอะไรก็ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา จิตเองก็เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา เราสั่งจิตไม่ได้ สั่งจิตให้ดีตลอดก็ไม่ได้ ห้ามจิตชั่วก็ไม่ได้ สั่งให้จิตสุขก็ไม่ได้ ห้ามจิตทุกข์ก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 18 มิถุนายน 2566
Wed, 19 Jul 2023 - 1h 01min - 2058 - [คลิปสั้น] สติทำหน้าที่คุ้มครองจิต หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ธ.ค. 65 (651204)Wed, 19 Jul 2023 - 02min
- 2057 - เคล็ดวิชาการฝึกดูจิตดูใจตนเอง : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 มิถุนายน 2566
ถ้าเราภาวนาดูจิตดูใจก็ดูได้ 2 ระดับ ถ้าอย่างง่าย เราก็ดูจิตที่เกิดดับ ด้วยการเห็นเกิดดับร่วมกับเจตสิก จิตสุขเกิดพร้อมกับความสุข ดับพร้อมกับความสุข จิตทุกข์เกิดพร้อมกับความทุกข์ ดับพร้อมกับความทุกข์ จิตเฉยๆ เกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ ดับพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ จิตดีจิตชั่วก็เหมือนกัน เกิดพร้อมกับความรู้สึก ดับพร้อมกับความรู้สึก ฉะนั้นจิตกับเจตสิกนั้นเกิดดับด้วยกัน พร้อมๆ กัน ถ้าเราหัดดูจิตโดยการเห็นเกิดดับทางอายตนะ เราดูที่ตัวจิตไปเลย เดี๋ยวก็เป็นจิตรู้ เดี๋ยวก็เป็นจิตคิด เดี๋ยวก็เป็นจิตเพ่ง เดี๋ยวก็จิตหลงไปดูรูป เดี๋ยวจิตหลงไปฟังเสียง เดี๋ยวจิตหลงไปดมกลิ่น เดี๋ยวจิตหลงไปรู้รส เดี๋ยวจิตหลงไปรู้สัมผัสทางร่างกาย เดี๋ยวจิตก็หลงไปรู้อารมณ์ทางใจ เราเห็นอย่างนี้ก็ได้ แต่อันนี้ละเอียดจะดูยาก เพราะฉะนั้นหลวงพ่อแนะนำ ถ้าหัดใหม่ ไปดูจิตสุข จิตทุกข์ จิตดี จิตชั่ว อันนั้นดูง่าย แต่ถ้าจะดูละเอียดขึ้นมา จนเห็นจิตเกิดดับทางอายตนะ ดูยากกว่า เพราะมันเร็วมาก การจะเห็นจิตเกิดดับทางอายตนะนั้น มันอยู่ในธัมมานุปัสสนาแล้ว สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง สติ สมาธิ ปัญญาของเรา ต้องแข็งแรงพอ เราถึงจะเห็น ถ้าไม่แข็งแรงพอ ดูแวบเดียวหลงไปนานเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 17 มิถุนายน 2566
Tue, 18 Jul 2023 - 1h 03min - 2056 - [คลิปสั้น] วัดใจของเราไปเรื่อยๆ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ธ.ค. 65 (651204)Tue, 18 Jul 2023 - 02min
- 2055 - หลวงปู่ดูลย์สอนหลวงพ่อให้ดูจิต : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 มิถุนายน 2566
หลวงปู่ดูลย์ท่านสอนตัดตรงเข้ามาที่จิต เป็นการสอนที่ลัดสั้นที่สุด หลวงปู่สุวัจน์ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านก็เคยบอกหลวงพ่อ ท่านบอกว่าตอนท่านไปเรียนกับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นก็สอนบอกว่า “ดูจิตได้ให้ดูจิต ดูจิตไม่ได้ให้ดูกาย ดูจิตไม่ได้ ดูกายไม่ได้ ให้ทำสมถะ” ทำสมถะเพื่อให้มีกำลังกลับมาดูจิตได้ ดูกายเพื่ออะไร เพื่อให้เกิดกำลังไปเห็นจิต ดูจิตเพื่ออะไร เพื่อให้เห็นธรรม ธรรมะเป็นอย่างไร ก็ของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา นั่นล่ะคือตัวธรรมะ เราดูลงไปเลย จิตนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เพราะฉะนั้นสิ่งที่หลวงปู่ดูลย์สอน เป็นทางที่ลัดสั้นที่สุดแล้ว ถ้าเราสามารถตัดตรงเข้ามาที่จิตเรา การปฏิบัติจะเหลือนิดเดียวเลย แต่ถ้าเรายังเข้ามาที่จิตไม่ได้ เราก็อ้อมๆ ไปก่อน ไปดูกาย ดูเวทนา ดูสังขารอะไรไป แต่ถ้าตัดตรงเข้ามาเห็นจิตได้ เห็นจิตสุขเกิดแล้วดับ จิตทุกข์เกิดแล้วดับ จิตดีเกิดแล้วดับ จิตโลภ โกรธ หลงเกิดแล้วดับ อย่างนี้ดูจิตไปเลย วันไหนดูไม่ไหว จิตไม่มีกำลัง ไปดูกาย หายใจเข้าพุท หายใจออกโธอะไรก็ทำไป จิตมันมีกำลังขึ้นมา มันก็จะเข้ามาดูจิตได้เอง นี่เส้นทางที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนหลวงพ่อมา แล้วหลวงพ่อก็เอามาทำ ใช้เวลาไม่มาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดบูรพาราม 11 มิถุนายน 2566
Mon, 17 Jul 2023 - 45min - 2054 - แก้ปัญหาที่สาเหตุ : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 5 มิถุนายน 2566
เรามาหัดทำกรรมฐานแล้วสังเกตไป ความอยากเกิดทีไร ความทุกข์เกิดทุกที ไปหัดดูตัวนี้ไว้ แล้วเราจะรู้เลยว่า ไม่มีใครมาทำให้ใจเราทุกข์ได้ เราทุกข์เองเพราะอำนาจของความอยาก ส่วนปัญหาทางโลกๆ มีปัญหาก็แก้ไป ใช้สติ ใช้ปัญญา ไม่ใช่ใช้ความอยาก อย่างเราค้าขายไม่ดี เคยขายดีแล้วก็ขายไม่ดีขึ้นมา เราก็ต้องใช้เหตุผลไปดูว่าทำไมคนไม่เข้าร้านเรา แต่เดิมเข้า มันอาจจะมีร้านอื่นที่น่าสนใจกว่า คนก็ไป นี่คือปัญหา ไปดูว่าปัญหามีสาเหตุที่ไหนก็ไปแก้ที่นั้น เราก็จะแก้ป้ญหาทางโลกได้ ส่วนทางจิตใจเรา ตัวทุกข์นั้นเป็นปัญหาใหญ่ของเรา เราก็ดูอะไรเป็นเหตุของทุกข์ ก็คือตัวตัณหา ตัวความอยาก ถ้าเรารู้ทัน ความอยากดับ ความทุกข์มันก็ดับ เพราะฉะนั้นเวลามีปัญหาเกิดขึ้น จะปัญหาในจิตใจเราเอง หรือปัญหาข้างนอกก็ตาม ปัญหาในชีวิตก็ตาม เวลาแก้ปัญหา ให้ไปพิจารณาให้ดี สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหนแก้ที่นั่น แก้ที่ตัวสาเหตุ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 5 มิถุนายน 2566
Mon, 17 Jul 2023 - 25min - 2053 - [คลิปสั้น] เป็นฆราวาสต้องประพฤติพรหมจรรย์ไหม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 ธ.ค. 65 (651203)Sat, 08 Jul 2023 - 02min
- 2052 - [คลิปสั้น] เราต้องทำในรูปแบบทุกวัน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 ธ.ค. 65 (651203)Fri, 07 Jul 2023 - 02min
- 2051 - [คลิปสั้น] จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 ธ.ค. 65 (651203)Thu, 06 Jul 2023 - 03min
- 2050 - [คลิปสั้น] เวลาชีวิตมีปัญหาภาวนาอย่างไร หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 พ.ย. 65 (651127)Wed, 05 Jul 2023 - 04min
- 2049 - [คลิปสั้น] รู้หน้าที่ของตัวเอง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 พ.ย. 65 (651127)Tue, 04 Jul 2023 - 02min
- 2048 - [คลิปสั้น] ความสงบสุขจากสมถะและวิปัสสนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 พ.ย. 65 (651127)Mon, 03 Jul 2023 - 02min
- 2047 - ภาวนาต้องรู้จักปลีกตัว : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 มิถุนายน 2566
เราจะภาวนาให้ตลอดรอดฝั่ง ต้องรู้จักปลีกตัวออกจากหมู่คณะที่วุ่นวายบ้าง มีโอกาสปลีกตัวออกจากหมู่คณะที่วุ่นวายได้ ก็ปลีกตัวเสีย แต่ถ้าไม่มีโอกาสปลีกตัว ก็ดูแลรักษาจิตของตนเองไว้ วันใดที่เราภาวนา เราสามารถสงบอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายได้ มีความสงัด สงบ ปลีกตัวออกจากความวุ่นวาย ทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายนั่นล่ะ แล้วชีวิตเราจะมีความสุข มันเรื่องอะไร เกิดมาแล้วต้องคลุกคลี มั่วสุม จมอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา ผู้มีปัญญาก็มีวิธีถอดถอนตัวเองออกจากโลก จากความวุ่นวาย ก็ปฏิบัติไป มีสติรู้เท่าทัน กายเคลื่อนไหว รู้สึก จิตเคลื่อนไหว รู้สึก ทำไปเถอะ ต่อไปก็จะได้กายวิเวก ได้จิตตวิเวก ได้อุปธิวิเวก เป็นลำดับๆ ไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 4 มิถุนายน 2566
Mon, 26 Jun 2023 - 1h 01min - 2046 - เดินให้ถูกทาง : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566 (ช่วงบ่าย)
ถ้าเราปฏิบัติถูกทาง อยู่ในทางสายกลาง แล้วเราก็ไม่ไปมีอุปสรรคกลางทาง วันหนึ่งเราก็ต้องถึงพระนิพพานแน่นอน ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น ฉะนั้นสิ่งที่ขวางเราไม่ให้ไปพระนิพพาน ไม่ใช่ใครอื่น คือใจที่อ่อนแอของเราเอง ถ้าเราไม่รู้ทาง เราไปไม่ได้ ถ้ารู้ทางแล้วอ่อนแอก็ไม่ยอมไป ใช้ไม่ได้ หลวงปู่ดูลย์สอนให้หลวงพ่อรู้จักเดินทางสายกลาง ไม่เผลอลืมจิตใจของตนเอง ไม่ไปเพ่งจ้องบังคับจิตใจของตัวเอง ไม่สุดโต่ง 2 ข้าง ถัดจากนั้นหลวงพ่อดูทุกวัน ไม่เคยเลิกเลย การภาวนาไม่หยุดเลย อยู่ตรงไหนก็ปฏิบัติได้ ถึงเวลาสมควรทำสมถะก็ทำ ถึงเวลาที่จิตมีกำลังพอจะเดินปัญญา ก็เดินปัญญา ไม่เกยตื้น สำรวจตัวเองอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเราก็สำรวจตัวเอง เดินให้ถูกทางก่อน หลวงพ่อพูดง่ายๆ ทางสายกลาง ไม่เผลอ ไม่เพ่ง 2 ตัวนี้ เผลออยู่ก็คือกามสุขัลลิกานุโยค เพ่งอยู่คืออัตตกิลมถานุโยค ไม่เผลอ ไม่เพ่ง คือภาวะแห่งการรู้ รู้กายอย่างที่กายเป็น รู้จิตอย่างที่จิตเป็น นี่เราเดินอยู่ในทางสายกลางแล้ว แล้วอย่าไปติดไปค้างอะไรอยู่กลางทาง ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติไป ถึงวันหนึ่งเราก็จะถึงพระนิพพาน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 3 มิถุนายน 2566 (ช่วงบ่าย)
Sun, 25 Jun 2023 - 46min - 2045 - [คลิปสั้น] กลัวตายมากต้องทำอย่างไร หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 พ.ย. 65 (651126)Fri, 23 Jun 2023 - 03min
- 2044 - [คลิปสั้น] หลงอีกรู้อีก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 พ.ย. 65 (651126)Thu, 22 Jun 2023 - 02min
- 2043 - [คลิปสั้น] สติเป็นตัวรู้ทัน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 พ.ย. 65 (651126)Wed, 21 Jun 2023 - 02min
- 2042 - [คลิปสั้น] รู้ทันจิตจนแจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 พ.ย. 65 (651120)Tue, 20 Jun 2023 - 01min
- 2041 - แก่นกลางของการปฏิบัติ : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566
อาศัยจุดตั้งต้นอ่านจิตตัวเองให้ออกนั่นล่ะ จิตคิดชั่ว ยังไม่ทันพูด คิดชั่วก่อน ยังไม่ทันทำชั่ว คิดชั่วก่อน พอรู้ทันตั้งแต่ต้นตอ ตรงที่คิดชั่วนั้น คิดด้วยราคะ โทสะ โมหะ รู้ทันไป รู้ทันอย่างนี้แล้วองค์มรรคทั้งหลายจะเจริญขึ้น นี้เป็นวิธีปฏิบัติที่เรียบง่าย ลัดสั้นที่สุดแล้ว ปกติก็ไม่ค่อยมีใครเขาสอนกันหรอก เขาจะสอนรูปแบบของการปฏิบัติ ให้นั่งสมาธิอย่างนี้ เดินจงกรมอย่างนี้ ส่วนหลวงพ่อจะเน้นลงมาที่แก่นกลางของการปฏิบัติ คือจิตของเรานั่นเอง ได้จิตก็ได้ธรรมะ ไม่ได้จิตก็ไม่ได้ธรรมะ ฉะนั้นถ้าเราตัดตรงเข้าที่จิตได้เลย ก็คอยรู้เท่าทันไป ถ้าตัดตรงเข้าทิ่จิตไม่ได้เลย ก็ผ่านกระบวนการตัวอื่นมา ที่สอนให้วันนี้ มันเป็นกระบวนการที่ลัดสั้นสุดๆ แล้ว ตัดเข้าที่จิตเลย จิตคิดเพราะอะไร ก็รู้ทันไป ทำไม่ได้ก็ทำความสงบก่อน สงบแล้วก็มาดูกายไป จากกายเขยิบขึ้นดูเวทนา จากเวทนาเขยิบขึ้นมาดูจิตตสังขาร ความปรุงดีปรุงชั่ว ถัดจากนั้นก็ขึ้นมาสู่ธัมมานุปัสสนา เห็นสภาวธรรม รูปธรรมนามธรรม ทำงานไป ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา กุศล อกุศล ก็เกิดดับ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา สิ่งทั้งหลายมีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ อันนั้นคือจุดสุดยอดกรรมฐาน เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดเพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี สิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี ฉะนั้นเราเห็นสัจจะ เห็นความจริงแท้ ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นลอยๆ สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ กรรมฐานมีมากมาย ถ้าตัดตรงเข้าที่จิตได้ก็เข้ามาเลย ถ้าไม่ได้ก็ไปดูเอา ถนัดดูกายก็ดูกาย ถนัดดูเวทนาก็ดูเวทนา ถนัดดูจิตที่เป็นกุศล อกุศล ก็ดูเอา ถ้าลึกซึ้งลงมาเห็นกระบวนการที่จิตมันทำงาน ตรงนั้นจริงๆ คือธัมมานุปัสสนา ถ้าเข้าตรงนี้ได้ก็เข้าเลย เข้าไม่ได้ก็ไปกายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนาไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 3 มิถุนายน 2566
Mon, 19 Jun 2023 - 1h 09min - 2040 - [คลิปสั้น] ต้องมีเครื่องอยู่ของจิต หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 พ.ย. 65 (651120)Mon, 19 Jun 2023 - 01min
- 2039 - หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 31 พฤษภาคม 2566Sun, 18 Jun 2023 - 22min
- 2038 - ฝึกจนเป็นอัตโนมัติ : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 พฤษภาคม 2566
เส้นทางนี้เราจะต้องฝึก ฝึกให้มีศีลอัตโนมัติ ฝึกจนกระทั่งเราได้สมาธิอัตโนมัติ แล้วการที่เราคอยดูเกิดดับไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมันเห็นเกิดดับโดยไม่เจตนา นั่นล่ะปัญญาอัตโนมัติ ทีแรกยังไม่อัตโนมัติหรอก ดูบ่อยๆๆ ไป ต่อไปมันอัตโนมัติ ไม่ได้เจตนาจะรู้สึก มันก็รู้สึก ไม่ได้เจตนาจะเห็นสภาวะ มันก็เห็น ปัญญาอัตโนมัติเกิดแล้ว เมื่อศีลอัตโนมัติ สมาธิอัตโนมัติ ปัญญาอัตโนมัติ ทำงานอยู่อย่างนี้ โลภเจตนาถูกทำลายไป โลภเจตนา อย่างเราถือศีล มีความโลภซ่อนอยู่ อยากได้เป็นคนดี อยากเป็นเทวดา ทำสมาธิก็มีความโลภซ่อนอยู่ อยากมีฤทธิ์มีเดช อยากไปเป็นพระพรหม เจริญปัญญาก็อยากรอบรู้ อยากแตกฉาน อย่างนี้กิเลสแทรกอยู่ ถ้ากิเลสแทรกอยู่ จิตใจก็ยังจะดิ้นรน สร้างภพสร้างชาติต่อไป แต่ถ้าเราภาวนา จนกระทั่งศีลอัตโนมัติ สมาธิอัตโนมัติ ปัญญาอัตโนมัติ คือเห็นไตรลักษณ์โดยไม่ได้เจตนาจะเห็น ตรงนี้เราไม่มีเจตนา ไม่มีความโลภ เมื่อขาดเจตนาที่เจือด้วยโลภะตัวนี้ จิตก็จะไม่ดิ้นรน ไม่ปรุงแต่งต่อ จิตจะเข้าถึงความเป็นกลาง จิตจะสักว่ารู้ สักว่าเห็น หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 20 พฤษภาคม 2566
Sat, 10 Jun 2023 - 1h 09min - 2037 - การรู้สึกกายรู้สึกใจ 2 ขั้น : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 21 พฤษภาคม 2566
เวลาเราจะปฏิบัติธรรม ไม่ใช่นั่งบังคับตัวเองให้เคร่งเครียด แต่รู้สึกตัวเองไว้ ร่างกายหายใจออก รู้สึก หายใจเข้า รู้สึก ร่างกายยืน เดิน นั่ง นอน รู้สึกไว้ การที่เรารู้สึกกาย รู้สึกจิต มันมี 2 สเต็ป ขั้นแรก รู้ถึงความมีอยู่ของร่างกาย รู้ถึงความมีอยู่ของจิตใจตัวเอง ร่างกายมีอยู่ รู้สึก ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายมีอยู่ รู้สึก ถัดจากนั้น ก็รู้ให้ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง ทีแรกเรารู้สึกถึงความมีอยู่ของกายของใจ ลึกลงอีกชั้นหนึ่ง รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกายของใจ ตรงนี้เราจะเห็นไตรลักษณ์ได้ การที่หลวงพ่อบอกให้มีสติ คือคอยรู้สึกถึงความมีอยู่ของกายของใจ อันนี้สมถะ รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของกายของใจ อันนี้คือวิปัสสนา ทำสมถะก็ต้องมีสติ ทำวิปัสสนาก็ต้องมีสติ ถึงจะเรียกว่าการปฏิบัติ หลวงปู่มั่นสอนชัดเจน “มีสติคือมีการปฏิบัติ ขาดสติคือขาดการปฏิบัติ” ไม่ได้ปฏิบัติแล้ว เดินจงกรมแล้วก็เครียด ไม่ได้ปฏิบัติ อันนั้นเป็นอัตตกิลมถานุโยค เพราะฉะนั้นรู้สึกตัวให้เป็น แล้วการปฏิบัติธรรมจะไม่ยากเท่าที่คิดหรอก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 21 พฤษภาคม 2566
Fri, 09 Jun 2023 - 1h 01min - 2036 - บทเรียนชื่อจิตตสิกขา : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 14 พฤษภาคม 2566
ทำกรรมฐานแล้วคอยรู้ทันจิตตัวเอง เรียกว่าจิตตสิกขา บทเรียนชื่อจิตตสิกขาจะทำให้เราได้สมาธิที่ถูกต้อง คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคำว่า จิตตสิกขา ก็ไปนั่งสมาธิแล้วก็เพ่งๆๆ เคลิ้มๆ ลงไป บอกนี่คือจิตตสิกขา ไม่เห็นได้เรียนรู้เรื่องจิตเลย มีแต่การน้อมจิตให้เซื่องซึมไป หรือเคร่งเครียดไป ฉะนั้นให้เราทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง ทำไปสบายๆ แล้วถ้าจิตมันไหลไปคิด รู้ทัน จิตมันถลำลงไปเพ่งอารมณ์กรรมฐาน รู้ทันไป ตรงที่เรารู้ทันความเคลื่อนไป ความหลงไป สติจะเกิด สติตัวนี้เป็นสัมมาสติ มันรู้เท่าทันจิตตนเอง สิ่งที่เรียกว่าสัมมาสติ พระพุทธเจ้าอธิบายไว้ชัดเจน คือสติปัฏฐาน 4 เป็นสติที่รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้จิตก็คือรู้จิตตสังขารนั่นล่ะ จิตปรุงดีก็รู้ จิตปรุงชั่วก็รู้ แล้วก็รู้ธรรม รู้ว่าสิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ก็ดูไป ทั้งกุศลทั้งอกุศลมีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 14 พฤษภาคม 2566
Wed, 07 Jun 2023 - 1h 04min - 2035 - หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 12 พฤษภาคม 2566Mon, 05 Jun 2023 - 51min
- 2034 - [คลิปสั้น] ทำไมถึงเน้นให้ดูจิตหลงไปคิด หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 พ.ย. 65 (651119)Fri, 02 Jun 2023 - 02min
- 2033 - ไม่ต้องแสวงหาความว่าง : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 พฤษภาคม 2566
เราได้ยินคำว่า “ว่างๆ” อย่ามาว่าง พยายามรู้ พยายามดูกายอย่างที่กายเป็น ดูจิตอย่างที่จิตเป็นไป เดี๋ยววันหนึ่งก็จะเห็น กายก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ จิตก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ สิ่งที่มันไม่เที่ยง มันก็เป็นทุกข์ สิ่งที่มันเป็นทุกข์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดถือ จิตมันก็หมดความยึดถือ มันก็เป็นอิสระขึ้นมา ไม่ต้องโหยหาความว่าง ไม่ต้องแสวงหาความว่าง ยิ่งแสวงหา ยิ่งไม่เจอ เรียนรู้กาย เรียนรู้ใจ ให้เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจไป ถึงวันที่วัฏฏะมันถล่มลงไป เดี๋ยวมันว่างเอง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 13 พฤษภาคม 2566
Thu, 01 Jun 2023 - 1h 01min - 2032 - [คลิปสั้น] อริยทรัพย์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 พ.ย. 65 (651119)Thu, 01 Jun 2023 - 02min
- 2031 - วิธีทำความรู้สึกตัว : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 พฤษภาคม 2566
การทำความรู้สึกตัว ไม่ต้องทำอะไร รู้สึกเข้าไปเลย ร่างกายนั่ง รู้ว่านั่ง ร่างกายเดิน รู้ว่าเดิน ไปดูในสติปัฏฐาน ท่านไม่ได้บอกให้ทำอะไร “ดูกร พระภิกษุทั้งหลาย ให้เธอคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า หายใจออกยาว รู้ว่าหายใจออกยาว หายใจเข้ายาว รู้ว่าหายใจเข้ายาว” ให้ทำอะไร ให้รู้ รู้อะไร รู้ร่างกายที่หายใจออก หายใจเข้า เรารู้ร่างกายอยู่ ถ้ารู้กายรู้ใจอยู่ก็เรียกว่ารู้สึกตัวอยู่ แต่ถ้าหายใจไปด้วยความเคร่งเครียด ไม่เรียกว่ารู้สึกตัว แต่เรียกว่าทรมานตัวเองอยู่ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 7 พฤษภาคม 2566
Wed, 31 May 2023 - 1h 03min - 2030 - [คลิปสั้น] ตัดตรงเข้ามาที่จิต หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 พ.ย. 65 (651119)Wed, 31 May 2023 - 03min
- 2029 - ฆราวาสมีหน้าที่ทั้งทางโลกทางธรรม : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 พฤษภาคม 2566
เรายังเกิดมาได้ทันที่พระสัจธรรมยังดำรงอยู่ ขวนขวายพากเพียรปฏิบัติเข้า เป็นฆราวาสหน้าที่ทางโลกต้องทำ หน้าที่ทำมาหากิน เลี้ยงครอบครัว หน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม อย่างไปเลือกตั้งเป็นหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม ต่อชาติบ้านเมือง ส่วนหน้าที่ต่อตนเอง คือการปฏิบัติธรรม เรียกว่าทางโลกเราก็ต้องทำ ทางธรรมเราก็ต้องทำ พยายามฝึกตัวเองไป ชีวิตเราก็จะสะอาดหมดจด ด้วยอำนาจของศีล ด้วยอำนาจของสมาธิ ด้วยปัญญา พอปัญญาคือความรู้ถูก ความเข้าใจถูกเกิดขึ้น มันจะทำลายกิเลสขั้นละเอียด คือสังโยชน์ เป็นกิเลสที่ผูกมัดเราไว้กับโลก ให้เราติดอยู่ในภพภูมิต่างๆ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 6 พฤษภาคม 2566
Wed, 31 May 2023 - 1h 04min - 2028 - [คลิปสั้น] ใจเข้าสู่ความเป็นกลางด้วยปัญญา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 พ.ย. 65 (651113)Tue, 30 May 2023 - 02min
- 2027 - [คลิปสั้น] จิตต้องตั้งมั่นจึงจะเห็นความจริง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 พ.ย. 65 (651113)Mon, 29 May 2023 - 02min
- 2026 - อนัตตลักขณสูตร : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 30 เมษายน 2566
หลวงพ่อบอกให้พวกเราคอยรู้สึกกายรู้สึกใจ ไม่ใช่โมเมพูด มันก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน สอนตั้งแต่ปัญจวัคคีย์ ในอนัตตลักขณสูตร สูตรที่สอง ต่อจากธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก็ขึ้นมาสู่ อนัตตลักขณสูตร สอนถึงความเป็นอนัตตา อนัตตาก็คือมันเป็นของที่ไม่ควรยึดควรถือ รูปไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นมันทุกข์ สิ่งซึ่งมันเป็นทุกข์ คือมันถูกบีบคั้นให้แตกสลาย ไม่ควรยึดถือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง ถูกบีบคั้นให้แตกสลาย ไม่ควรยึดถือ พระปัญจวัคคีย์ ท่านรู้แจ่มแจ้งด้วยจิตใจอย่างถ่องแท้ ไม่ใช่รู้ด้วยการฟังแล้วก็คิดเอา แต่ท่านเห็นความจริงเอา เห็นความจริงของขันธ์ทั้ง 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ขันธ์ทั้ง 5 ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ท่านก็หมดความยึดถือในขันธ์ทั้ง 5 หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 30 เมษายน 2566
Wed, 24 May 2023 - 54min - 2025 - หมายรู้ให้ถูก : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 29 เมษายน 2566
สติระลึกรู้กาย สัญญาหมายรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของกาย ปัญญาก็เกิด สติระลึกรู้เวทนา ความรู้สึกสุขทุกข์ สัญญาหมายรู้อย่างถูกต้อง ปัญญาก็เกิดก็วาง พอปัญญาเกิดมันจะละ มันจะวาง มันจะเป็นตัวตัด ปล่อยวาง มันวางของมันเอง ไม่มีใครสั่งปัญญาให้เกิดได้หรอก อาศัยการเจริญสติ แล้วก็หมายรู้ให้ถูกไปเรื่อยๆ นั่งอยู่อย่าไปคิดว่าเรานั่ง พยายามรู้สึกไป ถ้ามันมองไม่เห็นด้วยตัวเอง พยายามรู้สึกว่ารูปมันนั่ง ร่างกายมันนั่ง ดูอย่างนี้เรื่อยๆ ต่อไป ไม่ได้เจตนา เวลาร่างกายเคลื่อนไหว มันเห็นรูปมันเคลื่อนไหว ไม่ใช่เราเคลื่อนไหว พอมีความหมายรู้ถูก เกิดความคิดถูก ต่อไปก็เกิดความเห็นถูก ตัวความเห็นถูกนั้น ตัวปัญญา ฉะนั้นหมายรู้ให้ถูก แล้วก็ความเห็นถูกคือตัวปัญญามันก็จะเกิด หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 29 เมษายน 2566
Wed, 24 May 2023 - 1h 00min - 2024 - [คลิปสั้น] นักภาวนาผู้หญิงจำเป็นต้องบวชชีไหม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 12 พ.ย. 65 (651112)Fri, 19 May 2023 - 01min
- 2023 - [คลิปสั้น] รู้เนือง ๆ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 12 พ.ย. 65 (651112)Thu, 18 May 2023 - 01min
- 2022 - [คลิปสั้น] ตั้งเป้าหมายของการปฏิบัติให้ถูก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 12 พ.ย. 65 (651112)Wed, 17 May 2023 - 02min
- 2021 - การเจริญสติปัฏฐาน : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 23 เมษายน 2566
ถ้าเรามีสติที่ถูกต้อง สมาธิที่ถูกต้องก็จะเกิด ถ้าเราไม่มีสติที่ถูกต้อง สมาธิที่ถูกต้องก็ไม่มี การเจริญปัญญาหรือการทำวิปัสสนากรรมฐานก็ทำไม่ได้ มรรคผลก็ไม่มีทางเกิด เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้อย่างหนึ่ง สติสำคัญมาก เป็นธรรมะที่มีอุปการะมาก ท่านยกไว้ 2 ตัว สติกับสัมปชัญญะว่าเป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ที่จะคอยช่วยเหลือคุ้มครองเราจนถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้น สติเป็นตัวรู้เท่าทันความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกายของใจเรา ฉะนั้นสติที่รู้กายรู้ใจ เรียกว่าสติปัฏฐาน สติอย่างอื่นไม่เรียกว่าสติปัฏฐาน เขาเรียกว่าเป็นสติเฉยๆ ไม่ใช่สัมมาสติ สิ่งที่เป็นสัมมาสติ คือสติปัฏฐาน จำไว้เลย พระพุทธเจ้าบอกเลยว่าสัมมาสติ อธิบายด้วยสติปัฏฐาน 4 ก็คือให้เราคอยรู้สึกกายในกายเนืองๆ รู้สึกเวทนาในเวทนาเนืองๆ รู้สึกจิตในจิตเนืองๆ รู้สึกธรรมในธรรมเนืองๆ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 23 เมษายน 2566
Tue, 16 May 2023 - 1h 11min - 2020 - จิตประภัสสร : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 22 เมษายน 2566
เมื่อไรไม่มีราคะ โทสะ โมหะ เมื่อนั้นจิตก็ประภัสสร สว่าง ผ่องใส สบาย มีความสุข จิตที่ประภัสสรมันจะมีเวทนา คือความรู้สึกได้ 2 อย่าง คือมีความสุขเรียกว่าโสมนัสเวทนา กับอุเบกขาเวทนา ไม่สุข ไม่ทุกข์ เฉยๆ ตัวจิตที่ประภัสสรนี้ เรียกภาษาที่ครูบาอาจารย์แต่ก่อนท่านเรียก คือจิตผู้รู้ จิตผู้รู้นี้ผ่องใสแต่ไม่บริสุทธิ์ ต้องมาฝึกวิปัสสนากรรมฐานต่อไป เพื่อชำระล้างจิตผู้รู้ตัวนี้ หรือจิตประภัสสรตัวนี้ ชำระล้างจนมันเข้าถึงความบริสุทธิ์ “บุคคลเข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา” ปัญญาก็คือการที่เราเห็นจิตใจของเรานี้ ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ จิตที่เป็นจิตประภัสสรนั้น เดี๋ยวก็เศร้าหมอง เวลากิเลสมา จะห้ามกิเลสไม่ให้มา ก็ห้ามไม่ได้ กิเลสก็เป็นอนัตตา จิตก็เป็นอนัตตา เราก็จะเห็นว่าจิตเดี๋ยวก็ผ่องใส เดี๋ยวก็เศร้าหมอง เฝ้ารู้เฝ้าดูอย่างนี้ ต่อไปปัญญามันก็เกิด จิตประภัสสร หรือจิตที่ผ่องใส หรือจิตผู้รู้นั้น สั่งให้เกิดก็ไม่ได้ เกิดแล้วรักษาไว้ก็ไม่ได้ จะห้ามกิเลสไม่ให้จรมาก็ไม่ได้ กิเลสมาแล้วจะไล่มันก็ไม่ไป แต่พอมีสติรู้ทันเท่านั้นเอง กิเลสดับทันทีเลย จิตก็ประภัสสรทันทีเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 22 เมษายน 2566
Sun, 14 May 2023 - 1h 01min - 2019 - [คลิปสั้น] ท่อนไม้ที่จะออกสู่ทะเล หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 พ.ย. 65 (651106)Fri, 12 May 2023 - 03min
- 2018 - ที่พักของจิต : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 16 เมษายน 2566
พวกเราควรจะมีที่พักของจิต มีบ้านให้จิตพักผ่อนบ้าง เวลาเราทำงานตรากตรำมาก เรายังต้องกลับมาบ้าน ไม่มีบ้าน เราก็มีห้องเช่า เราไปอยู่ที่โน่นที่นี่ ไม่มีจริงๆ เราก็อยู่ใต้ต้นไม้ มันก็ต้องมีที่อยู่ พอเรามีที่อยู่ จิตใจเราก็มีความสุข มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมา พร้อมที่จะต่อสู้กับกิเลสต่อไป ถ้าเป็นร่างกาย เราเหน็ดเหนื่อย เราก็พักผ่อน มีแรงแล้วเราก็พร้อมที่จะไปทำงานต่อ ส่วนจิตใจ งานของจิตใจของเราคือกรรมฐานทั้งหลาย ให้จิตเราได้มีที่พักบ้าง มิฉะนั้นเราโหดร้ายกับจิตตัวเอง เคี่ยวเข็ญมันมากไป จนมันไม่เคยมีความสงบเลย เหมือนเรามีทาสอยู่คนหนึ่ง เราก็ใช้มันทำงานทั้งวันทั้งคืน ไม่ให้มันพักเลย ไม่นานมันก็ตาย จิตนี้เราใช้งานมันตลอดเวลา ใช้คิด ใช้นึก ใช้ปรุง ใช้แต่ง แล้วมันก็ปนเปื้อน กระทบฝุ่นละออง คือกิเลส มอมแมมทั้งวัน ไม่มีความสุข ไม่มีความสงบ แล้วมันก็เสียธรรมชาติเดิมของมันที่มันประภัสสร ธรรมชาติเดิมของจิตประภัสสร ผ่องใส ฉะนั้นการที่เราทำสมาธิ เพื่อให้จิตมันรวมเข้ามาสงบ ประภัสสร แล้วถัดจากนั้นจิตเรามีกำลังมากพอแล้ว ก็จะก้าวไปสู่ขั้นการเจริญปัญญา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 16 เมษายน 2566
Thu, 11 May 2023 - 1h 05min - 2017 - [คลิปสั้น] ครูบาอาจารย์ให้เครื่องมือถางกิเลส หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 พ.ย. 65 (651106)Thu, 11 May 2023 - 01min
- 2016 - คุณของพระพุทธเจ้า : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 15 เมษายน 2566
สิ่งที่เป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ คือตัวคุณธรรม คุณธรรมของพระพุทธเจ้ามีอะไรบ้าง ท่านมีปัญญาธิคุณ ท่านตรัสรู้ได้ด้วยตัวเอง เราที่เป็นสาวก กระทั่งอรหันตสาวก ไม่มีปัญญาธิคุณอันนี้ เรามีกรุณาธิคุณเหมือนพระพุทธเจ้าไหม สาวกมีไม่เหมือนพระพุทธเจ้า มีไม่เท่า พระพุทธเจ้าตกนรกไปช่วยคนก็ยังได้ สาวกก็ยังไม่ค่อยกล้าหาญขนาดนั้น ความกรุณานี้ไม่เท่าเทียม บางองค์บรรลุแล้วไม่สอนใครเลย ก็นิพพานไปเลย ไม่สงเคราะห์โลก ความกรุณาของสาวกไม่เท่า ปัญญาไม่เท่า พอพิจารณามาถึงความบริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าบริสุทธิ์ พระสาวกก็บริสุทธิ์ เป็นอันเดียวกัน ความรู้สึกมันจะรู้สึกว่า จิตที่บริสุทธิ์นั้น ที่เราพัฒนาขึ้นมา กับความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แล้วจะรู้ทันทีเลย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมเป็นหนึ่งเดียวกันเลย จากสามก็เป็นหนึ่ง เป็นอันเดียวกันหมด ฉะนั้นเราภาวนา วันหนึ่งเราจะเจอพระพุทธเจ้าตัวจริง เราจะเจอพระพุทธเจ้าตัวจริงได้ ใจเราต้องสะอาด เราต้องล้างความสกปรกด้วยศีล ด้วยธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 15 เมษายน 2566
Tue, 09 May 2023 - 1h 02min - 2015 - เส้นทางของคนจริง : หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 9 เมษายน 2566
การภาวนาต้องทำสม่ำเสมอ ทำบ้างหยุดบ้าง ไม่ได้ผลหรอก เราหยุดเมื่อไร กิเลสก็ลากเราลงต่ำไป กว่าจะดิ้นรนกลับขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง มันใช้แรงเยอะ ถ้าทำแล้วก็หยุดๆ มันก็อยู่ตรงนั้น หรือไม่ก็นานๆ ก็หมดกำลังที่จะปฏิบัติ มันต้องอดทนจริงๆ ตัดสินใจให้เด็ดขาดลงไปเลย จะปฏิบัติ ไม่ใช่ทำเล่นๆ ถ้าเราทำถูกแล้วก็ทำสม่ำเสมอ มันจะมีพัฒนาการที่มองเห็นได้ด้วยตัวเอง เส้นทางนี้ไม่ได้ยาก แต่เส้นทางนี้เป็นเส้นทางของคนจริง หมายถึงคนที่เข้มแข็ง เอาจริงเอาจังในการที่จะเรียนรู้ตัวเอง เราทำกรรมฐานที่ดีถูกต้อง เราก็ได้รับผลเป็นความร่มเย็นในจิตใจ การที่เราเจริญศีล สมาธิ ปัญญา นี่เรียกเราเจริญเหตุที่เป็นตัวมรรค ผลคือความพ้นทุกข์ ก็จะมาถึงในวันหนึ่ง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 9 เมษายน 2566
Sun, 07 May 2023 - 51min
Podcasts similares a หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
นิทานชาดก 072
พี่อ้อยพี่ฉอด พอดแคสต์ CHANGE2561
หลงไปในประวัติศาสตร์ by หมอเอ้ว ชัชพล chatchapol
ฟังธรรมะก่อนนอน ใครชอบนอนฟังธรรมะแล้วหลับ จ Dhamma Lover
People You May Know FAROSE podcast
Speak Better English with Harry Harry
เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี karunabuakamsri
ลงทุนแมน longtunman
Mission To The Moon Mission To The Moon Media
เสียงอ่านธรรมที่เป็นพุทธ Peace Of Mind
ธรรมนิยาย หลวงพ่อจรัญ (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตา Ploy Techa
พระเจอผี Prajerpee
เคาะข่าวค่ำ radio tonews
SONDHI TALK sondhitalk
อ่านแล้วอ่านเล่า Ta Thananon Domthong
คุยให้คิด Thai PBS Podcast
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) Thammapedia.com
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) Thammapedia.com
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย Thammapedia.com
The Secret Sauce THE STANDARD
THE STANDARD PODCAST THE STANDARD
คำนี้ดี THE STANDARD
Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) watpasukato
พุทธวจน พุทธวจน