Filtrar por género

Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)

Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)

watpasukato

เสียงบรรยายธรรมของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต Dhamma talks by Venerable (Luangpor) Paisal Visalo, Abbot of Watpasukato, Chaiyaphum, Thailand. MP3 files are courtesy of https://www.facebook.com/Zensukato Contact admin: watpasukato19@gmail.com

908 - 25670119pm--ไม่คาดหวัง ใจก็ไม่ทุกข์
0:00 / 0:00
1x
  • 908 - 25670119pm--ไม่คาดหวัง ใจก็ไม่ทุกข์

    19 ม.ค. 67 - ไม่คาดหวัง ใจก็ไม่ทุกข์

    Wed, 17 Apr 2024 - 26min
  • 907 - 25670118pm--อย่ามัวโทษคนอื่นเมื่อใจเป็นทุกข์

    18 ม.ค. 67 - อย่ามัวโทษคนอื่นเมื่อใจเป็นทุกข์ : ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ตาม เขาไม่สามารถทำให้เราทุกข์ใจได้เลย ตราบใดที่เราไม่ร่วมมือด้วย อาจารย์ชยสาโรท่านพูดดีว่า ไม่มีใครมาทำให้เราโกรธ ไม่มีใครมาทำให้เราทุกข์ได้ มีแต่คนที่มาเชิญชวนให้เราทุกข์ ให้เราโกรธ อยู่ที่ว่าเราจะรับคำเชิญของเขาหรือเปล่า พูดอีกอย่างหนึ่งคือว่า ถ้าเราทุกข์เมื่อไหร่ แสดงว่าเรารับคำเชิญและคำชวนของเขา แล้วอย่างนี้จะไปโทษใคร อันที่จริงพระพุทธเจ้าเคยพูดกับพราหมณ์คนหนึ่ง พราหมณ์ด่าท่านอยู่เรื่อยๆ แต่ท่านก็ไม่สนใจ แล้วท่านพูดกับเขาในเวลาต่อมาว่า ถ้าหากว่ามีคนมาบ้านท่าน ท่านจะทำอย่างไร พราหมณ์บอกว่า เขาจะเอาของกิน ของขบเคี้ยวมาให้อาคันตุกะ พระพุทธเจ้าจึงถามว่า แล้วถ้าอาคันตุกะไม่รับของขบเคี้ยวของท่าน ของนั้นจะเป็นของใคร พราหมณ์ตอบว่าเป็นของข้าพเจ้าสิ   พระพุทธเจ้าจึงตอบว่า ฉันใดก็ฉันนั้น คำต่อว่าด่าทอของท่าน ในเมื่อเราไม่รับ มันจะเป็นของใคร พระพุทธเจ้าไม่ทุกข์เพราะว่าไม่รับคำต่อว่าด่าทอของเขา แปลว่าอะไร แปลว่าที่เราทุกข์เพราะไปรับคำตอบว่าด่าทอของเขาเข้ามากรีดแทงใจเรา และนี่เป็นความรับผิดชอบของใคร   เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วเมื่อพูดถึงความทุกข์แล้ว โดยเฉพาะความทุกข์ใจ ไม่ว่ารอบตัวเราจะเป็นอย่างไร จะเจอการกระทำหรือคำพูดของใคร แต่เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ทุกข์ได้ ถ้าเราวางใจให้ถูกต้อง และแน่นอนถ้าเราวางใจได้ดี และเราประพฤติตัวดี มีการกระทำที่ถูกต้องทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม การที่จะมีสิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับเราก็จะน้อยลง   ถ้าเราใช้เงินอย่างระมัดระวัง มีสติ พาลูกเดินเที่ยว เข็นลูกไปเที่ยวอย่างมีสติ มีความระมัดระวัง มันก็ไม่เกิดเหตุร้ายกับลูกของเรา และถ้าเราดูแลสุขภาพดี มันก็ไม่เกิดความเจ็บป่วยขึ้นกับเรา แต่ถึงแม้มันจะมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้น แม้ว่าเราจะดูแลตัวเองดีแล้ว หรือทั้งๆ ที่เราขับรถดีแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาเฉี่ยวมาชนเรา แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ทุกข์ได้ อย่างน้อยก็ไม่ทุกข์ใจ ถ้าเรารู้จักวางใจได้ถูกต้อง   เพราะฉะนั้นเวลามีความทุกข์ ก็อย่ามองออกไปข้างนอกตัว เราต้องกลับมาดูที่ใจของเรา เพราะถ้าเรากลับมาดูที่ใจของเรา การที่จะออกจากทุกข์ การที่จะแก้ทุกข์ก็เป็นไปได้ แม้ว่าสิ่งแย่ๆ จะยังคงอยู่

    Sun, 14 Apr 2024 - 29min
  • 906 - 25670117pm--รักษาใจให้เป็นอิสระจากความคิด

    17 ม.ค. 67 - รักษาใจให้เป็นอิสระจากความคิด : ถ้าเรามีสติ เรามีความรู้สึกตัว เราก็จะรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ยามที่คำพูดหรือการกระทำของเขามากระทบหูหรือกระทบตาของเรา อารมณ์เกิดขึ้น อันนี้ห้ามไม่ได้สำหรับตัวปุถุชนเมื่อมีการกระทบกับรูปหรือเสียง แต่ว่าอารมณ์นั้นก็ทำอะไรใจไม่ได้ ใจของเราก็ยังสงบได้ แม้จะอยู่ในห้องที่เสียงดังอึกทึก แม้ว่าคนรอบข้างจะทำตัวไม่น่ารัก ใจก็ไม่มีความหงุดหงิด ไม่มีความโมโห ฉะนั้นมันทำให้เราเป็นอิสระจากสิ่งแวดล้อม จากคนรอบข้าง จากสิ่งรอบตัวได้ ไม่ได้แปลว่าจะสงบได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในห้องที่ไม่มีเสียงดัง เพราะถ้ามีเสียงเมื่อไหร่ก็จะกระตุ้นให้เกิดความคิด เกิดอารมณ์ขึ้นมา ไม่ว่าความคิดหรืออารมณ์จะเกิดขึ้น แต่ก็ทำอะไรใจไม่ได้ เพราะว่าเรารู้ทัน เรารู้ทันทีที่มันเกิดขึ้นในใจ   และถ้าเราสามารถจะรักษาใจให้เป็นอิสระจากความคิด ต่อไปเราก็จะเป็นอิสระจากสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่มากระทบจากภายนอก ก็ไม่ทำให้ใจเราหงุดหงิด มันจะมาล่อหลอกให้เราเกิดความโลภ เกิดความโกรธ หรือยั่วยุให้เราเกิดความโกรธ ก็ทำไม่สำเร็จ อันนี้เป็นเพราะการฝึกใจให้มีสติที่รวดเร็ว มีความรู้สึกตัวอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือความสงบ สงบในใจแม้รอบตัวจะว้าวุ่นก็ตาม   พูดอย่างนี้หลายคนก็อาจจะไม่ค่อยเข้าใจถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้าไม่ได้ลองทำดู ก็จะรู้แต่เพียงว่าไม่มีความคิดเกิดขึ้น แล้วใจก็จะสงบ แต่ไม่ได้รู้ว่าแม้ความคิดเกิดขึ้นแล้วใจสงบก็ยังได้ ถ้ารู้ทันหรือรู้ว่ามีความคิดนั้นอยู่ นี่คือสิ่งที่คนที่ไม่ปฏิบัติหรือคนที่ไม่ได้ศึกษาจิตใจของตัวเองจะไม่เห็น เพราะฉะนั้นก็เอาแต่คิดหาทางควบคุมความคิดให้มันหยุดคิด หรือไปบังคับจิตให้เพ่งอยู่กับสิ่งอื่น มันจะได้ไม่คิด เพ่งลมหายใจ เพ่งมือเพ่งเท้า   มันมีวิธีที่ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ความสงบที่เกิดขึ้นในใจมันสามารถจะเกิดขึ้นได้โดยที่ไม่ต้องบังคับจิต ไม่ต้องควบคุมความคิด เพียงแต่รู้ทันมัน แล้วต่อไปเราก็จะได้เห็นว่าความคิดของเรา มันมีอุบายต่างๆมากมายที่สามารถจะล่อให้เราหลง จะหลอกให้เราเชื่อ แล้วก็ทำให้เราเป็นทุกข์ หรือบางทีก็เสียผู้เสียคนไปเลย แต่ถ้าเรารู้ทันหรือว่ารู้ทัน มันก็ทำอย่างนั้นไม่ได้   ถ้าเรารู้ทางรู้ทันบ่อยๆ ความคิดที่เกิดขึ้นก็จะค่อยๆ เชื่อง แล้วก็ค่อยๆ มีลวดลายหรือมีอุบายน้อยลง หรือตกเป็นเครื่องมือของกิเลส ไม่ว่าจะเป็นโลภะ โทสะ ความอิจฉา ความเกลียดชังน้อยลง กิเลสมันจะมาอาศัยความคิด มาหลอกล่อเราให้ทำตามมัน สนองปรนเปรอมัน หรืออยู่ในอำนาจของมัน ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าความคิดมันไม่ได้เป็นนายเราอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าเราเป็นนายความคิดมากกว่า ซึ่งอันนี้จะทำให้เราสามารถใช้ความคิดให้เกิดประโยชน์ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีความคิดเลย มีได้ แต่รู้ทัน แล้วใช้มันให้เป็นประโยชน์

    Sat, 13 Apr 2024 - 25min
  • 905 - 25670111pm--อย่ามาวัดเพียงแค่หาความสงบ

    11 ม.ค. 67 - อย่ามาวัดเพียงแค่หาความสงบ : ถ้ามาวัดด้วยความคาดหวังว่าจะได้พบกับความสงบ แล้วเกิดไม่เจอความสงบอย่างที่คาดหวัง เกิดความหงุดหงิด ขุ่นเคือง กลายเป็นว่ามาแล้วเกิดทุกข์ขึ้นมา หรืออาจจะมาได้เจอความสงบอย่างที่คาด แต่อยู่ๆไปความสงบที่เคยพบหายไป อาจจะเป็นชั่วครู่ชั่วยาม เช่น มีเสียงดัง หรือว่าคนพูดไม่ถูกหู ทำอะไรไม่ถูกใจ ถ้าเกิดเป็นครั้งเป็นคราว ยังพอไหว แต่ว่าถ้าเกิดบ่อยๆ จะเกิดความทุกข์ขึ้นมา ผิดหวัง จะดีกว่าถ้าหากว่าเราตั้งจิตว่า ไม่ได้มาวัดเพื่อความสงบ แต่ว่าเพื่อมาฝึกตน ถ้าเราตั้งจิตแบบนี้ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นที่นี่ จะมีเสียงดังจากนอกวัด เสียงพูดคุยจากคนในวัด หรือว่าการกระทำคำพูดที่ไม่ถูกหู ไม่ถูกใจ หรืออะไรต่างๆ เช่น ความไม่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มาเป็นประโยชน์สำหรับการฝึกตนได้ทั้งนั้น   ถ้าเรามุ่งเพื่อการฝึกตน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าบวกหรือลบ ดีหรือร้าย ถูกใจหรือไม่ถูกใจ ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้นสำหรับการฝึกใจ ไม่ใช่เพื่อฝึกให้เกิดความอดทนเท่านั้น แต่ว่าฝึกให้สามารถที่จะรับมือหรืออยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์   ถ้าเรามาวัดเพื่อฝึกฝนตนโดยเฉพาะการฝึกใจ ไม่ใช่แค่มาอยู่ง่ายกินง่ายอย่างเดียว แต่ว่ามาฝึกสติ ฝึกสมาธิ ทำความรู้สึกตัว หรือว่าลดละกิเลส ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นที่นี่ ล้วนเป็นของดีทั้งนั้น เพราะเป็นอุปกรณ์หรือเป็นการบ้าน วัตถุดิบสำหรับการฝึกตน ทำให้เรามีสติไว รู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น เวลามีอะไรมากระทบ หรือรู้จักวางจิตวางใจให้เป็นกลางต่อสิ่งที่มากระทบได้   ถ้าหากว่าเรามาวัดเพื่อหาความสงบ นอกจากจะมีโอกาสผิดหวังแล้ว อาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการมาวัดเท่าที่ควร โดยเฉพาะที่ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มุ่งเรื่องการฝึกฝนตน

    Fri, 12 Apr 2024 - 26min
  • 904 - 25670110pm--รู้ทันความคิดจนจิตเป็นอิสระ

    10 ม.ค. 67 - รู้ทันความคิดจนจิตเป็นอิสระ : คนเราทุกข์เพราะความคิดก็เพราะเหตุนี้ เพราะว่าชอบเติมแต่งไปจนมันเกินเลยไป ถ้าหากว่าเราเจริญสติ มันต้องเห็นไปเรื่อยๆ เห็นลึกขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นว่าการที่ใจมันยึดเข้าว่าเป็นเรา เป็นของเรา ตรงนี้คือที่หลวงพ่อท่านพูดอยู่เสมอว่า เห็น ไม่เข้าไปเป็น ถ้าเรามีสติเห็นอยู่ชัดๆ มันจะไม่เข้าไปยึดว่าเป็นเรา เป็นของเรา แล้วมันจะรู้ทันเลยว่า มันมีการปรุงตัวกูขึ้นมา เป็นผู้โกรธ เป็นผู้เกลียด เป็นผู้ปวด เป็นผู้เครียด มันมีการปรุงตัวกูขึ้นมา ถ้าไม่รู้จักพิจารณา ไม่รู้จักเฝ้าดูใจของตัว ไม่มีสติที่ไวพอ ก็จะไม่เห็นตรงนี้ และตรงนี้มันคือรากเหง้าของความทุกข์ การปรุงตัวกูขึ้นมา มันเป็นยิ่งกว่าการตีค่า มันมากกว่าการเติมแต่งหรือการตีความ แต่มันเป็นการสร้างตัวทุกข์ขึ้นมาเลย   การเจริญสติ ถ้าหากว่าเรามีสติที่ละเอียด และไว เราจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่มารู้ว่าโกรธ หลังจากที่โกรธไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามันจะรู้แม้กระทั่งเวลาขณะที่กำลังโกรธ เห็นชัดๆ เลย อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า เห็นแบบจังๆ เห็นแบบซึ่งๆ หน้า   ต่อมามันจะเห็นเร็วขึ้น จนกระทั่งว่าเพียงแค่มีความกระเพื่อมในจิตใจ เห็นความหงุดหงิดขึ้นมา มีความหงุดหงิดขึ้นมาก็รู้ทัน เห็นมันได้ทันที ต่อไปก็จะเห็นว่า ที่เราทุกข์เพราะเราชอบให้ค่าหรือตีค่าไปในทางลบ หรือตีความไปในทางร้าย หรือเติมแต่งไปต่างๆ นานา จนกระทั่งเห็นชัดๆ เลย เป็นเพราะการปรุงตัวกูขึ้นมา ที่มันเป็นตัวการทำให้ทุกข์   ถ้าเราเจริญสติ ไม่เห็นตรงนี้ มันก็แค่มีความสบายชั่วคราว รู้ทันความคิดรู้ทันอารมณ์ ก็วาง ปล่อย สุดท้ายก็กลับมาทุกข์ใหม่ เพราะไม่รู้ทันการตีค่า ให้ค่า หรือการตีความ หรือว่าปล่อยให้ใจปรุงแต่งไปสารพัด จนกระทั่งเข้ารกเข้าพก รวมทั้งการเข้าไปเป็น ไม่ว่ามีอารมณ์ใดเกิดขึ้นก็เข้าไปเป็น หรือเข้าไปยึดสิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทรัพย์สมบัติต่างๆ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวการของความทุกข์   แต่ถ้าเรามีสติที่เจริญงอกงาม ก็จะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จะเห็นทะลุทะลวง จนกระทั่งถึงตัวที่เป็นสมุทัย คือ รากเหง้าแห่งความทุกข์ ซึ่งก็อาจจะช่วยทำให้เราปลดเปลื้องใจออกจากความทุกข์ได้ในที่สุด

    Thu, 11 Apr 2024 - 26min
Mostrar más episodios

Podcasts similares a Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)